การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษารายวิชาการเงินธุรกิจ โดยการจัด การเรียนแบบร่วมมือแบบเอส ที เอ ดี (STAD)
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนก่อนและหลังได้รับการสอนแบบร่วมมือ (Student Teams Achievement Division: STAD) และ 2) เพื่อปรับพฤติกรรมการเรียนของผู้เรียนในรายวิชาการเงินธุรกิจ ผู้วิจัยทำการศึกษาจากประชากร คือ นักศึกษาที่เรียนวิชาการเงินธุรกิจ ในภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งแบ่งเป็นการสอนแบบเดิมใน 4 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นแบ่งกลุ่มนักศึกษา โดยวิธีคละคะแนนจากแบบทดสอบ แล้วดาเนินการสอนแบบร่วมมือ (STAD) อีก 4 สัปดาห์ แบบทดสอบก่อนการเรียน (Pre - test) และแบบทดสอบหลังการเรียน (Post - test) ใบบันทึกพฤติกรรมการเข้าชั้นเรียนและการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ผลการวิจัย พบว่า จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาการเงินธุรกิจของนักศึกษาหลักสูตรคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ชั้นปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนแบบร่วมมือ (STAD) พบว่า มีผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ และจากผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมการเรียนของผู้เรียนหลังการสอนแบบร่วมมือ (STAD) ในภาพรวมดีขึ้น นักศึกษามีพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม การแสดงความคิดเห็น ความรับผิดชอบในการทำงานที่ได้รับมอบหมายสูงกว่าก่อนการปรับการสอนแบบร่วมมือ (STAD) เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าวเป็นการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และการจัดบรรยากาศในการเรียน คือ การจัดกลุ่มผู้เรียนที่คละความสามารถ การจัดกลุ่มแบบนี้จะทำให้เกิดความร่วมมือในการทำงาน และคนที่เรียนเก่งจะให้คำแนะนำแก่เพื่อน ๆ เพราะสมาชิกในกลุ่มทุกคนจะคานึงถึงความสำเร็จของกลุ่มเป็นสาคัญ เน้นการแบ่งงานกันทำ ช่วยเหลือกัน ร่วมมือกันทำงานที่ได้รับมอบหมาย มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ช่วยให้ผู้เรียนมีการพัฒนาด้านสังคม และมีความรับผิดชอบต่อตนเองมากขึ้น เพื่อทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ เป็นแนวทางให้เกิดการพึ่งพากันทางบวกและส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้มากขึ้น
Article Details
เอกสารอ้างอิง
จิรัชญา ทิขัตติ. (2550). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความรับผิดชอบทางการเรียนวิชาภาษาไทย ที่ได้รับการสอนแบบร่วมมือแบบ เอส ที เอ ดี และการสอนแบบปกติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต (การมัธยมศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วาสนา ไตรวัฒนธงชัย. (2543). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านและความรับผิดชอบต่อการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนโดยวิธีการเรียนแบบร่วมมือตามวิธี เอส ที เอ ดี กับวิธีสอนตามคู่มือครู. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต (การมัธยมศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
Slavin, Robert E. (1978). Student Teams and Achievement Division. Journal of Research and Development in Education. 12 (November): 41.
Slavin, R.E. (1995). Cooperative Learning: Theory, research, and practice. 2nd ed. Boston: Allyn& Bacon.
Valentino, Birginai Rider. (1988). A Study of Achievement Anxiety and Attitude toward Mathematics in College Algebra Student Using Small-group Interaction Methods. DAT 50/02 A: 579.