การพัฒนาบทเรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวัฒนธรรมกลุ่มประเทศอาเซียน สาหรับมัคคุเทศก์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างหาประสิทธิภาพของบทเรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวัฒนธรรม
ประเทศกลุ่มอาเซียนสาหรับมัคคุเทศก์ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านภาษาอังกฤษของ
ผู้เรียนก่อนและหลังการใช้บทเรียนฯ และเพื่อศึกษาความคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนฯ กลุ่ม
ตัวอย่างคือ ผู้เรียนสาขาการจัดการการโรงแรมและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ ศูนย์ฯ
ภูเก็ต ที่ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษมัคคุเทศก์ จานวน 38 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา
2557 ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ บทเรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ
วัฒนธรรมประเทศกลุ่มอาเซียนสำหรับมัคคุเทศก์จานวน 8 บท แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การอ่าน
ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศกลุ่มอาเซียนสาหรับมัคคุเทศก์ แบบสอบถามความ
คิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศกลุ่มอาเซียนสาหรับ
มัคคุเทศก์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติ t – test ใช้ค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และ
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติ t-test
ผลการวิจัย พบว่า ประสิทธิภาพของบทเรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเทศกลุ่มอาเซียน
สาหรับมัคคุเทศก์ มีค่าเท่ากับ 74.00/76.32 ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 77/77 ผลสัมฤทธิ์ใน
การอ่านภาษาอังกฤษของผู้เรียนหลังได้รับการสอน โดยใช้บทเรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวัฒนธรรม
ประเทศกลุ่มอาเซียนสาหรับมัคคุเทศก์ สูงกว่าก่อนได้รับการสอนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ
ความเชื่อมั่นที่ .05 และผู้เรียนมีความคิดเห็นต่อบทเรียนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเทศกลุ่ม
อาเซียนสาหรับมัคคุเทศก์อยู่ในระดับดี
Article Details
เอกสารอ้างอิง
มหาวิทยาลัย.
วีรชาติ ชัยเนตร. (2741). การสร้างบทเรียนเสริมการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้นิทานพื้นบ้านสำหรับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ธิญาดา ยอดแก้ว. (2547). การศึกษาสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของประเทศในกลุ่มอาเซียน.
วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาการสอนภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ดาว แสงบุญ. (2543). การสร้างเอกสารการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้านการท่องเที่ยว
สาหรับนักศึกษาสาขาวิชาพัฒนาการท่องเที่ยว ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัด
เชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอน ภาษาอังกฤษ
ในฐานะภาษาต่างประเทศ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ทวีศักดิ์ ไชยมาโย และคณะ. (2541). การศึกษาปัญหาการใช้เทคนิคการสอนอ่านภาษาอังกฤษของ
ครูผู้สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สานักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครพนม.
วารสารวิชาการ. ปีที่ 1 ฉบับที่ 8, หน้า 80.
บูรชัย ศิริมหาสาคร. (2540). โลกาภิวัฒน์กับการพัฒนาการศึกษาไทย. สาร พัฒนาหลักสูตร ปีที่ 16 ฉบับที่128 หน้า 20.
วารินทร์ รัศมีพรหม. (2531). สื่อการสอน: เทคโนโลยีทางการศึกษาและการสอนร่วมสมัย.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชวนพิมพ์.
วิสาข์ จัติวัตร์. (2528). การสอนอ่านภาษาอังกฤษตามแนวการสอนเพื่อการสื่อสาร. มิตรครู ปีที่15 ฉบับที่ 8 หน้า 15-19.
สุมณฑา วิรูหญาณ.(2531). ระดับความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย. กรุงเทพฯ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุมิตรา อังวัฒนกุล. (2534). วิธีสอนภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
เสงี่ยม โตรัตน์. (2734). การวิเคราะห์แบบเรียนภาษาอังกฤษ. นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัย ศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์.
อัจฉรา วงศ์โสธร. (2529). เทคนิคการสร้างข้อสอบภาษาอังกฤษ.กรุงเทพมหานคร:อักษรเจริญทัศน์.
Ahellal, M’barek. (1990). Using Authentic Materials in the Classroom: Theoretical Assumptions and Practical Considerations. TESOL Quarterly. 16, 8: 39. Heaton, J.B. (1990). Classroom Testing. Harlow: Longman.
Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitudes. Archives of Psychology. 140:1–55.
Moorman, G.B., and W.E. Blanton. (1990). The information text reading activity (ITRA): engaging students in meaningful learning. Journal of Reading.
Ogle, D. (1986). K – W – L : A teaching model that develops active reading of expository text. The Reading Teacher. 39: 564-570.