การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพคล่องทางการเงินกับความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพคล่องทางการเงินกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 หมวด ได้แก่ หมวดธุรกิจการเกษตร และหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลทุติยภูมิจาก ข้อมูลทางบัญชีจากงบการเงินของบริษัทที่ดำเนินงานต่อเนื่องระหว่างปี 2563–2566 รวมทั้งสิ้น 46 บริษัท จำนวน 184 ชุดข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา สหสัมพันธ์เพียร์สัน และถดถอยเชิงพหุคูณ

           จากการวิเคราะห์พบว่า หมวดธุรกิจการเกษตร ระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ย ส่งผลบวกต่อ อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น สะท้อนถึงการจัดการสินค้าคงเหลือที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ ระยะเวลาจ่ายชำระหนี้ ส่งผลบวกต่อ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ และ อัตรากำไรสุทธิ แต่ส่งผลลบต่อ อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น บ่งชี้ถึงการหมุนเวียนเงินทุนระยะสั้นที่ดี แต่กระทบต่อทุนผู้ถือหุ้นในระยะยาว ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า สำหรับหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนเร็ว มีแนวโน้มส่งผลบวกต่อ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ และ อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น แม้ไม่แสดงนัยสำคัญ สะท้อนถึงความสามารถในการรักษาสภาพคล่อง ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย ส่งผลลบต่อ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ และ อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น บ่งชี้ถึงการจัดการลูกหนี้ที่ไม่เหมาะสม ระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ย ส่งผลลบต่อ อัตรากำไรสุทธิ สะท้อนถึงต้นทุนการจัดเก็บที่สูง และ ระยะเวลาจ่ายชำระหนี้ ส่งผลลบต่อ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ แสดงถึงการขยายระยะเวลาชำระหนี้ที่มากเกินไปการศึกษานี้ย้ำถึงความสำคัญของการจัดการสภาพคล่องที่เหมาะสมต่อการเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร ผลการศึกษาสะท้อนให้เห็นว่าปัจจัยด้านสภาพคล่องมีอิทธิพลต่อความสามารถในการทำกำไรแตกต่างกันไปตามประเภทอุตสาหกรรม ทั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการสภาพคล่องที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการทำกำไรของแต่ละกลุ่มธุรกิจ