The Priority Needs of Secondary School Academic Management Based on the concept of Real Life Applications of STEM Education

Main Article Content

Watcharaporn Amonsak
Ponglikit Petpon
Pruet Siribanpitak

Abstract

The purpose of this research was to study the priority needs of secondary school management based on the concept of Real Life Applications of STEM Education. This research applied a quantitative approach. The population was secondary schools under the Office of the Basic Education Commission total of 2,358 schools. The sample was 345 secondary schools, selected by multi-stage random sampling. The key respondents were 2,070 people including principals, heads of academic administration, and teachers of STEM subjects. The research instrument was a questionnaire. The data were analyzed by frequency, percentage, means, standard deviation, and PNImodified. The research result turned out as follows. The priority needs of secondary school management based on the concept of Real Life Applications of STEM Education could be classified with regards to secondary school academic management, the first priority needs index fell on Assessment with STEM integration (PNImodified=0.3000), the second is the pedagogy with STEM integration (PNImodified=0.2926) and the third is pedagogy with creating innovations that benefit work and economy (PNImodified=0.2871) and Assessment with creating innovations that benefit work and economy (PNImodified=0.2871), that priority needs index are equal.

Article Details

How to Cite
Amonsak, W., Petpon, P., & Siribanpitak, P. (2022). The Priority Needs of Secondary School Academic Management Based on the concept of Real Life Applications of STEM Education. Journal of Humanities and Social Sciences, Rajapruk University, 8(3), 165–181. Retrieved from https://so03.tci-thaijo.org/index.php/rpu/article/view/265290
Section
Articles

References

กมล ภู่ประเสริฐ. (2544). การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: ทิปส์ พับบลิเคชั่น.

เขมวดี พงศานนท์. (2557). สะเต็มศึกษา:นวัตกรรมการเรียนรู้ในศตรรษที่ 21. ค้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561, จาก http://www.stemedthailand.org/wp-content/uploads/2015/05/NewIntro-STEM.pptx

ฐิติวรดา พลเยี่ยม. (2561). สะเต็มศึกษา:ความเข้าใจเบื้องต้นสู่ห้องเรียนบูรณาการ. วารสารครุพิบูล, 5(2): 122-135.

ประสงค์สิทธิ์ ราชชมภู และ นิธิตา สิริพงศ์ทักษิณ. (2563). กระบวนการนำนโยบายสะเต็มศึกษาไปปฏิบัติในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. วารสารการบริหารการปกครอง. 9(2): 541-556.

ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2542). การบริหารวิชาการ. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.

ปูชนีย์ ช่วยไธสง และ พีรศักดิ์ วรฉัตร. (2563). การพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการสะเต็มศึกษาในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษา เขต 32. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 9(2): 584-597.

ลือชา ลดาชาติ วิลาวัลย์ โพธิ์ทอง วิไลภรณ์ ฤทธิคุปต์ และ ลฏาภา ลดาชาติ. (2562). ความเข้าใจและมุมมองของครูเกี่ยวกับสะเต็มศึกษาและการออกแบบเชิงวิศวกรรม. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร, 39(3): 133-149.

วศิณีย์ อิศรเสนา ณ อยุธยา. (2559). เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสะเต็มศึกษา. กรุงเทพ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ศูนย์ดำเนินงาน PISA แห่งชาติ สถานบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2564). ผลการประเมิน PISA2018 การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.).

ศูนย์สะเต็มแห่งชาติ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. (2561). คู่มือหลักสูตรอบรมครูสะเต็ม. ค้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2562, จาก: http://sk.nfe.go.th/msk/UserFiles/File/stem.pdf

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2014). ค้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2562, จาก http://www.stemedthailand.org/?page_id=25

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2561). รู้จักสะเต็ม. ค้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2562, จาก http://www.stemedthailand.org/?page_id=23

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2. (2562). ประกาศสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 เรื่อง โครงสร้างการบริหารงานของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2. กรุงเทพฯ: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 2.

สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2550). เรื่องการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาของเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไปยังคณะกรรมการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2550. ประกาศสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2561). มาตรฐานการศึกษาชาติ พ.ศ.2561. กรุงเทพฯ: สำนักเลขาธิการสภาการศึกษา.

สำนักเลขาธิการสภาการศึกษา. (2559). รายงานการวิจัย เพื่อจัดทำข้อเสนอนโยบาย การส่งเสริมการจัดการศึกษาด้านสะเต็มศึกษาของประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

สำนักเลขาธิการสภาการศึกษา. (2559). สรุปผลการประชุมโต๊ะกลมไทย-สหรัฐฯ ด้านการศึกษาครั้งที่ 7: สะเต็มศึกษา: วัฒนธรรมการเรียนรู้สำหรับกำลังคนในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ: สำนักเลขาธิการสภาการศึกษา.

สุกัญญา แช่มช้อย และคณะ. (2560). ภาวะผู้นำในการบริหารและการประกันคุณภาพการศึกษา. กรุงเทพฯ: สาขาวิชาบริหารการศึกษา ภาควิชานโยบาย การจัดการและความเป็นผู้นำทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุดารัตน์ พรหมแก้ว เอกรินทร์ สังข์ทอง ชวลิต เกิดทิพย์ และ ชิดชนก เชิงเชาว์. (2563). การบริหารจัดการสะเต็มศึกษาของโรงเรียนเครือข่ายสะเต็มศึกษา: กรณีศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษาในประเทศไทย. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 31(3): 199-212.

สุภัค โอฬารพิริยะกุล. (2556). การพัฒนารูปแบบการบริหารวิชาการสำหรับโรงเรียนอนุบาล. วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อุทัย บุญประเสริฐ. (2540). หลักสูตรและการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน. กรุงเทพฯ: เอสดีเพรส.

Beatty, A. (2011). Successful STEM Education:Workshop Summary. Washington DC: the National Academies Press.

Manosuttirit, A. (2016). A Study of Teaching STEM Education in Thai High School. Thammasat International Journal of Science and Technology, 1-6.

National Research Council. (2012). A Framework for K-12 Science Education: Practices, Crosscutting Concept, and Core Ideas. Committee on New Science Education Standards, Board on Science Education, Division of Behavioral and Social Science and Education. Washington, DC: National Academy Press.

Vasquez Jo.A., S. C. (2013). STEM Lesson Essentials:Integrating Science, Technology, Engineering, and Mathematics. Portsmouth: Heinemann.

Vennix, J., den Brok, P. & Taconis, R. (2017). Perceptions of STEM-based outreach learning activities in secondary education. Learning Environment Research, 20(1), 21-46. doi:https://doi.org/10.1007/s10984-016-9217-6