การพัฒนาศักยภาพของคนในท้องถิ่นเพื่อการจัดการการท่องเที่ยวและสื่อสาร เพื่อสร้างอัตลักษณ์ชุมชนอย่างยั่งยืนของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวน จังหวัดสระบุรี
คำสำคัญ:
การจัดการการสื่อสาร, การท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืน, อัตลักษณ์กลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวนบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประวัติชุมชน ประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้าน โบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่เป็นศักยภาพของการท่องเที่ยวชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวน 2) เพื่อพัฒนาศักยภาพของคนในท้องถิ่นเพื่อการจัดการการท่องเที่ยวและสื่อสารเพื่อสร้างอัตลักษณ์ชุมชนอย่างยั่งยืน ของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวน และ 3) เพื่อได้แนวทางการสร้างอัตลักษณ์
และรูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืนของกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวน เป็นการวิจัย
เชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสังเคราะห์เอกสาร การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจำนวน 40 คน การสัมภาษณ์เชิงลึกและการสนทนากลุ่มจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 40 คน ประกอบด้วย ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำชุมชน และตัวแทนหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวน มีประวัติ ประเพณีที่เป็นศักยภาพของ
การท่องเที่ยวตามคุณค่าความสำคัญทางวัฒนธรรม ได้แก่ คุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ คุณค่าทางประวัติศาสตร์ คุณค่าทางสังคมและคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม สำหรับการพัฒนาศักยภาพคน พบผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือ เกิดกระบวนการเรียนรู้ เกิดความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ความเป็นไท-ยวน มีความรู้ มีความพร้อมในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวชุมชน ได้แนวทางการสร้าง
อัตลักษณ์ เข้าใจวิธีการ รูปแบบ ความสำคัญของการสื่อสารในการสร้างอัตลักษณ์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมี 4 ชุมชนที่มีความพร้อมในการสร้างอัตลักษณ์และรูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนอย่างยั่งยืนกลุ่มชาติพันธุ์ไท-ยวน จังหวัดสระบุรี ได้แก่ 1) ชุมชนพระยาทด ตำบลพระยาทด อำเภอเสาไห้ 2) ชุมชนวัด
สมุหประดิษฐาราม ตำบลสวนดอก อำเภอเสาไห้ 3) ชุมชนเขาแก้ววรวิหาร ตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ และ 4) ชุมชนหนองโนใต้
ตำบลหนองโน อำเภอเมือง
References
คมกฤช บุญเขียว. (2558). กระบวนการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไท-ยวนอําเภอเสาไห้
จังหวัดสระบุรี. กรุงเทพฯ: กรมส่งเสริมวัฒนธรรม.
ดวงกมล เวชวงค์. (2554). กระบวนการนําเสนออัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ยวนในบริบทของการท่องเที่ยวผ่านหอวัฒนธรรมพื้นบ้าน
และตลาดท่าน้ำ: ศึกษากรณีชุมชนไท-ยวน ตําบลต้นตาล อําเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี. วารสารวิทยบริการ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 22(3), 130-149.
เนตร์พัณณา ยาวิราช. (2553). ภาวะผู้นำและผู้นำทางกลยุทธ์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: เซ็นทรัล เอ็กเพรส.
ปรีดา นคเร, ลดาวัลย์ แก้วสีนวล และเพียงพิศ ศรีประเสริฐ. (2566). กลยุทธ์การสื่อสารเพื่อการท่องเที่ยวโดยชุมชน:กรณีศึกษา
บ้านนาแงะ ตำบลนาเหรง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารนาคบุตรปริทรรศ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
นครศรีธรรมราช, 15(1), 1-12.
ปัทมาวดี วงษ์เกิด. (2564). การสื่อสารเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ช้างสุรินทร์. ดุษฎีนิพนธ์
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
พจนา สวนศรี. (2546). คู่มือการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน. กรุงเทพฯ: โครงการท่องเที่ยวเพื่อชีวิตและธรรมชาติ.
พรรณนิภา เดชพล. (2560). การอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ไทยวน กรณีศึกษา: ประเพณีตักบาตรข้าวหลามจี่
เดือนยี่ที่หนองโน ตำบลหนองโน จังหวัดสระบุรี. ลพบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.
พรรณนิภา เดชพล. (2558). การจัดการการสื่อสารเพื่อพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวในชุมชนจังหวัดลพบุรีและสิงห์บุรี. ลพบุรี:
มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี.
พิมพ์ระวี โรจน์รุ่งสัตย์. (2553). การท่องเที่ยวชุมชน. กรุงเทพฯ: โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮ้าส์.
ภัทร์ศินี แสนสำแดง. (2563). การสื่อสารในการจัดการการท่องเที่ยวเชิงความร่วมมือเพื่อความยั่งยืน. ดุษฎีนิพนธ์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชาการสื่อสารวิทยา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
รสิกา อังกูร, วิทยาธร ท่อแก้ว และสุภาภรณ์ ศรีดี. (2562). การสื่อสารภูมิปัญญาด้วยการท่องเที่ยวโดยชุมชนโดยชุมชน
ท่องเที่ยวไทรน้อย. วารสารอิเล็กทรอนิกส์การเรียนรู้ทางไกลเชิงนวัตกรรม, 9(1), 129-154.
สยามล ชัยรัตนอุดมกุล. (2548). การพัฒนาศักยภาพคนในท้องถิ่นในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวตามลำน้ำ ป่าสัก
ของอําเภอเสาไห้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน. กรุงเทพฯ: สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา.
Chuck, w. (2007). Management (4th ed.). Canada: Thomson South-Western.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
![Creative Commons License](http://i.creativecommons.org/l/by-nc-nd/4.0/88x31.png)
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว