การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบ TPR และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ TPR และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM ตามเกณฑ์ 75/75 2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผล ของการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ 4) เปรียบเทียบทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ 5) เปรียบเทียบความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนการรู้ภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลนครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 80 คน จาก 2 ห้องเรียน แบ่งเป็น 2 กลุ่มๆ ละ 40 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบสุ่มกลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ TPR กลุ่มที่ 2 ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ TPR 7 แผนๆ ละ 2 ชั่วโมง จำนวน 14 ชั่วโมง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM 7 แผนๆ ละ 2 ชั่วโมง จำนวน 14 ชั่วโมง แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยาก ตั้งแต่ 0.20 ถึง 0.83 ค่าอำนาจ จำแนก ตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.78 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.87 แบบทดสอบทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ 4 ทักษะ ชนิดเติมคำ จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยาก ตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.75 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.24 ถึง 0.59 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.87 แบบวัดความ พึงพอใจที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ TPR และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM เป็น มาตราส่วนประมาณค่า มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.33 ถึง 0.88 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.76 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบ TPR มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.71/80.75 และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM ประสิทธิภาพเท่ากับ 80.67/77.81 ซึ่งเป็น ไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 2) ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ TPR คิดเป็นร้อยละ 64.63 และดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM คิดเป็นร้อยละ 60.24 3) นักเรียนที่ได้รับการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบ TPR มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 4) นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ TPR มีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษสูงกว่ากิจกรรมการเรียนรู้ แบบ B-SLIM อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ TPR มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับ มากที่สุด และนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ B-SLIM มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียน การสอนภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับมาก
The purposes of this study were: 1) to determine the effectiveness of organizing the Prathom Suksa 4 students’ English learning between learning activity by TPR and by B-Slim with the criterion set at 75/75, 2) to find effectiveness indices of organization of English learning, 3) to compare the English learning achievements, 4) to compare the English communicative skills, and 5) to compare the students’ satisfaction of English learning activity. The sample selected by cluster random sampling was 80 Prathom Suksa 4 students who were enrolled at Anuban Nakhon Phanom School under the Office of Nakhon Phanom Primary Education Service Area in the first semester of academic year 2012. A total of them were divided into 2 groups with 40 students for each group. Group 1 underwent the learning activity by TPR, while group 2 underwent it by B-SLIM. The instruments used were: 7 learning activity plans with 2 hours per plan leading to a total of 14 hours by either TPR or B-SLIM; a 40- item English learning achievement test with 4 choices whose difficulty values ranged between 0.20 and 0.83, discrimination power values between 0.23 and 0.78 and reliability value was 0.87; a 40-item test of 4 skills in English communication whose difficulty values ranged between 0.28 and 0.75, discrimination power values ranged between 0.24 and 0.59 and reliability value was 0.87; a rating scale questionnaire of satisfaction with learning English through activity by TPR or B-SLIM whose discrimination power values ranged between 0.33 and 0.88 and entire reliability value was 0.76. Statistics used to analyze data were percentage, mean, standard deviation and t-test for hypothesis testing. The findings were as follows: 1) Learning activity by TPR had efficiency of 82.71/80.75, while learning activity by B-SLIM had efficiency of 80.67/77.81 which met the criterion set at 75/75. 2) The effectiveness index of English learning activity by TPR was equal to 64.63% while the effectiveness index of English learning activity by B-SLIM was equal to 60.24%. 3) The students who underwent the learning activity by TPR had a significantly higher learning achievement than those who underwent the learning activity by B-SLIM at the .05 level. 4) The students who underwent the learning activity by TPR had significantly higher English communicative skill than those who underwent the learning activity by B-SLIM at the .05 level. 5) The students who underwent the learning activity by TPR were satisfied with management of English instruction at the highest level; while those who underwent the learning activity by B-SLIM were satisfied with it at high level.