ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในกิจกรรมการเรียนรู้ แบบวัฏจักร (4 MAT) เรื่อง กฎหมายกับการดำเนินชีวิตประจำวัน สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

Main Article Content

มาริสา แสนสุข
มนตรี อนันตรักษ์

Abstract

     การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในกิจกรรมการเรียนรู้แบบ วัฏจักร (4 MAT) เรื่อง กฎหมายกับการดำเนินชีวิตประจำวัน สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2) ศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักร กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนวัดบึงเหล็ก ตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 33 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักร เรื่อง กฎหมายกับการดำเนินชีวิต ประจำวัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 6 แผน รวม 12 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบข้อมูล คือ แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก มีค่าความยากระหว่าง 0.43-0.70 อำนาจจำแนก ระหว่าง 0.24-0.87 และค่าความเชื่อมั่น 0.86 และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักร ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น 0.84 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักร เรื่อง กฎหมายกับการดำเนินชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 23.63 ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 35.33 2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักร กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมในระดับมาก

     The purposes of this study were: 1) to investigate learning achievement of Mathayom Suksa 2 students in learning through the 4 MAT learning activities entitled “Law and Making a Daily Living’ in the Social Studies, Religion and Culture Learning Substance Group, 2) to examine students’ satisfaction with the 4 MAT learning activity arrangement. The target group used in this study was 33 Mathayom Suksa 2 students who were enrolled in the second semester of academic year 2011 at Wat Bueng Lek School, Don Nang Hong sub-district, That Phanom district, Nakhon Phanom province. The instruments used comprised 2 types: 1) type 1 as used in the treatment, namely 6 plans of learning activity arrangement using the 4 MAT method for 12 hours on law and making a daily living for Mathayom Suksa 2 students; 2) type 2 as used for collecting data, namely a 40-item objective test of learning achievement with 4 choices whose difficulty values ranged between 0.43 and 0.70, discrimination power values between 0.24 and 0.87 and reliability value was 0.86; a 5-rating scale questionnaire with 20 items asking students’ satisfaction with learning activity arrangement using the 4 MAT method, whose reliability value was 0.84. Statistics used to analyze data were percentage, mean, and standard deviation.

The findings disclosed as follows. 1) Learning achievement before the treatment among Mathayom Suksa 2 students with the 4 MAT learning activities entitled ‘Law and Making a Daily Living’ in the Social Studies, Religion and Culture Learning Substance Group had a mean score of 23.63, while their learning achievement after the treatment had a mean score of 35 .33. 2) Mathayom Suksa 2 students were satisfied with the 4 MAT learning activities in the Social Studies, Religion and Culture Learning Substance Group at high level.

Article Details

Section
บทความวิชาการ (Academic article)