สถานภาพงานวิจัยด้านการสื่อสารโน้มน้าวใจในประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาการของการวิจัยในด้านประเด็นปัญหา บริบททางการสื่อสาร แนวคิดและทฤษฎีที่เป็นกรอบในการวิจัย วิธีวิทยาการวิจัย และองค์ความรู้จากผลการวิจัยด้านการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจในประเทศไทยระหว่างปี 2523 – 2559 ใช้รูปแบบการวิจัยเอกสาร จากงานวิจัย วิทยานิพนธ์ และการศึกษาอิสระในคณะหรือสาขานิเทศศาสตร์ วารสารศาสตร์ สื่อสารมวลชน เทคโนโลยีการสื่อสารมวลชน และการสื่อสารบริบทต่างๆ ในมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชนผลการศึกษาสามารถสรุปได้ดังนี้
- งานวิจัยด้านการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจในคณะและสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐบาลและเอกชนของประเทศไทยพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2523 และเมื่อถึงปี พ.ศ. 2559 พบจำนวนงานวิจัยทั้งสิ้น 327เรื่อง โดยรวมพบว่า พัฒนาการของการวิจัยด้านการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจตลอด 36 ปีนี้มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นงานวิจัยในรูปแบบวิทยานิพนธ์จากคณะนิเทศศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐบาลมากกว่าสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
- ประเด็นปัญหาที่นิยมศึกษามากที่สุดคือ การรณรงค์เพื่อการโน้มน้าวใจ รองลงมาคือ ผลของการโน้มน้าวใจต่อผู้รับสารอันดับสามคือ คุณลักษณะและความน่าเชื่อถือในขณะที่ประเด็นเกี่ยวกับกลยุทธ์และประสิทธิภาพของสื่อมีจำนวนการศึกษาน้อยที่สุด
- บริบททางการวิจัยการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจ เป็นการวิจัยในบริบทการสื่อสารมวลชนเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือ การวิจัยในบริบทการสื่อสารระหว่างบุคคลหรือกลุ่มย่อย
- แนวคิดทฤษฎีที่เป็นกรอบในการวิจัย พบว่าในส่วนใหญ่ใช้แนวคิดทฤษฎีการสื่อสารมาอ้างอิงมากที่สุด รองลงมาคือ แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับผู้ส่งสาร
- วิธีการวิจัยที่ใช้ในงานวิจัยทางด้านการสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจพบว่า มีวิธีการวิจัยในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพจำนวนใกล้เคียงกัน เนื่องจากงานวิจัยส่วนใหญ่ใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลมากกว่าหนึ่งวิธี โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกพบว่าเป็นวิธีที่ถูกใช้มากที่สุด รองลงมาคือ การสำรวจ และการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงคุณภาพ ส่วนวิธีการวิจัยที่มีผู้ใช้น้อยที่สุดคือ การวิจัยเชิงปฏิบัติการ
- ในด้านองค์ความรู้นั้นพบว่า ประเด็นด้านอิทธิพลของแหล่งสาร กลยุทธ์การออกแบบสาร กลยุทธ์การใช้สื่อ และปัจจัยในผู้รับสาร จะเป็นตัวแปรหรือปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของการโน้มน้าวใจ
Article Details
ประเภทบทความ
Articles