รูปแบบการดำเนินชีวิตและความคิดเห็นต่อรายการโทรทัศน์ของเด็กเจเนอเรชั่นแซด

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการดำเนินชีวิตและความคิดเห็นต่อรายการโทรทัศน์ของเด็กเจเนอเรชั่นแซด ตลอดจนความแตกต่างระหว่างรูปแบบการดำเนินชีวิตกับความคิดเห็นต่อรายการโทรทัศน์ของเด็กเจเนอเรชั่นแซดโดยใช้วิธีวิจัยเชิงสำรวจเก็บข้อมูล โดยใช้แบบสอบถามกับเด็กที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลายในกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ปัจจัย (Factor Analysis) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ในการทดสอบสมมติฐานผลการวิจัยพบว่า

รูปแบบการดำเนินชีวิตของเด็กเจเนอเรชั่นแซด แบ่งออกเป็น 7 รูปแบบ คือ

1) กลุ่มเด็กสมัยนิยม (Modern Kid) เป็นกลุ่มเด็กที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและกิจกรรมเพื่อความสนุกสนานบันเทิงต่างๆ

2) กลุ่มเด็กกระตือรือร้น (Active Kid) เป็นกลุ่มเด็กที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เล่นกีฬาและอ่านหนังสือเรียน

3) กลุ่มเด็กชอบสังคม (Sociable Kid) เป็นกลุ่มเด็กที่ให้ความสำคัญกับเพื่อนและครอบครัวชอบทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว

4) กลุ่มเด็กช่างฝัน (Dreamy Kid) เป็นกลุ่มเด็กที่ชื่นชอบกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และส่งเสริมจินตนาการมีโลกส่วนตัวสูง

5) กลุ่มเด็กฉลาด (Smart Kid) เป็นกลุ่มเด็กที่ชื่นชอบกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาไหวพริบ สติปัญญา

6) กลุ่มเด็กเมือง (Urban Kid) เป็นกลุ่มเด็กที่ใช้ชีวิตแบบเด็กทั่วไปที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง

7) กลุ่มเด็กอยากรู้อยากเห็น (Curious Kid) เป็นกลุ่มเด็กที่ชื่นชอบการเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตนเอง

ส่วนความคิดเห็นของเด็กเจเนอเรชั่นแซดที่มีต่อรายการโทรทัศน์ในด้านต่างๆ พบว่า เกมโชว์และการตอบปัญหาเป็นรูปแบบรายการโทรทัศน์ที่เด็กสนใจมากที่สุด สถานที่ท่องเที่ยว เป็นเนื้อหารายการโทรทัศน์ที่เด็กสนใจมากที่สุด ส่วนผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ที่เด็กชอบมากที่สุด คือ พิธีกรที่มีน้ำเสียงไพเราะ สถานที่จัดรายการโทรทัศน์ที่เด็กสนใจมากที่สุด คือ สวนสนุก การใช้ภาพในรายการโทรทัศน์ที่เด็กชอบมากที่สุด คือ ภาพแอนิเมชั่น และการใช้เสียงในรายการโทรทัศน์ที่เด็กชอบมากที่สุด คือ การใช้เสียงเพลงเร็วๆ สนุกสนาน นอกจากนี้ ยังพบว่า รูปแบบการดำเนินชีวิตของเด็กเจเนอเรชั่นแซดที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อรายการโทรทัศน์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ