ปัจจัยเชิงสาเหตุของความพร้อมทางการเงินที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงาน ของวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย
คำสำคัญ:
ความพร้อมทางการเงิน; ผลการดำเนินงาน; วิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคมบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ได้แก่ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยเชิงสาเหตุของความพร้อมทางการเงินที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย 3) เพื่อสร้างแบบจำลองของปัจจัยเชิงสาเหตุของความพร้อมทางการเงินที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย ผู้วิจัยได้ออกแบบการวิจัยแบบผสมผสาน ได้แก่การวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ ทั้งนี้ได้ดำเนินการทบทวนวรรณกรรมหรือแนวคิดทฤษฎีเพื่อสร้างแบบจำลองหรือกรอบแนวคิดก่อนที่จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีสำรวจ และวิเคราะห์ทางสถิติด้วยสมการโครงสร้าง (Structural Equation Model: SEM)
ผลการศึกษา 1) ระดับความรอบรู้ทางการเงิน ภาวะผู้นำ โครงสร้างองค์กรมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความพร้อมทางการเงินขององค์กรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ระดับความรอบรู้ทางการเงิน ภาวะผู้นำ โครงสร้างองค์กร และความพร้อมทางการเงินมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานขององค์กรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 2) อิทธิพลของปัจจัยเชิงสาเหตุของความพร้อมทางการเงินที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย พบว่า (1) ระดับความรอบรู้ทางการเงินมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความพร้อมทางการเงินขององค์กรโดยมีขนาดอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.76 (2) ระดับความรอบรู้ทางการเงิน มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานขององค์กร โดยมีขนาดอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.31 (3) ภาวะผู้นำมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความพร้อมทางการเงินขององค์กรโดยมีขนาดอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.71 (4) ภาวะผู้นำมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานขององค์กร โดยมีขนาดอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 1.09 (5) โครงสร้างองค์กรมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความพร้อมทางการเงินขององค์กรโดยมีขนาดอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.76 (6) โครงสร้างองค์กรมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานขององค์กร โดยมีขนาดอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 1.12 (7) ความพร้อมทางการเงินขององค์กรมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานขององค์กร โดยมีขนาดอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.84 3) แบบจำลองของปัจจัยเชิงสาเหตุของความพร้อมทางการเงินที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคมและกลุ่มกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทยมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์โดย x2/df = 1.425, CFI = 0.98, GFI = 0.97, AGFI = 0.90, RMSEA = 0.04
เอกสารอ้างอิง
Agrawal Khushbu. (2022). Bernoulli wavelet method for non-linear fractional Glucose–Insulin regulatory dynamical system. Chaos, Solitons & Fractals: 164. 112632.
Brown M. & Graf R. (2022). Financial Literacy and Retirement Planning in Switzerland. Numeracy, 6, 1-21. https://doi.org/10.5038/1936-4660.6.2.6
Choi S. et al. (2020). COVID-19 and tourism and hospitality education in South Korea: A focus on online learning improvements in higher education International Journal of Tourism and Hospitality Research, 34 (10) (2020), pp. 17-27
Colleen Tokar Asaad. (2015). Financial literacy and financial behavior: Assessing knowledge and confidence. Financial Services Review; Atlanta Vol.2, Pages 101-117.
Collins, J. M. (2022). (1998) The psychology of counterproductive job performance. In R. W. Griffin, A. O'Leary-Kelly, & J. M. Collins (Eds.), Dysfunctional behavior in organizations: Violent and deviant behavior (pp. 219–242). Elsevier Science/JAI Press.
Diamantopoulos & Siguaw. (2000). Introducing LISREL. London: Sage Publications. https://doi.org/10.4135/9781849209359
Haitham Mohsin Kareem. (2019). Organizational performance in Iraqi SMEs. Academy of Accounting and Financial Studies Journal. Vol. 23. Pages 19-27.
Hilgert M. A. Hogarth & Beverly S. G. (2013). Risk Attitude, Financial Knowledge and Commercial Needs. Financial Management: The Connection between Knowledge and Behavior. Vol. 89. Pages 309-322.
Kim and Sorhaindo. (2013). The Relationship Between Business Financial Wellness and Financial Wellbeing: A Structural Equation Modelling Approach. Vol. 29. Pages 38-47.
Office of the Higher Education Policy Council National Science Research and Innovation. (2023). White Paper “Mechanisms for promoting and developing social enterprises (Social Enterprise) to create sustainability through higher education, science, research and innovation”.
Ongori Henry, Agolla Joseph Evans. (2008). Occupational Stress in Organizations and Its Effects on Organizational Performance. Journal of Management Research. Vol 8. Pages 123-135.
Peris M. Koech & Prof. G.S Namusonge. (2012). The Effect of Leadership Styles on Organizational Performance at State Corporations in Kenya. International Journal of Business and Commerce. Volume: 2. Pages 12-25.
Supamas Angsuchot et al. (2011). Statistical analysis for social science and behavioral science research. Techniques for using the LISREL program. 3rd printing. Bangkok: Charoen Dee Mankong Printing Company.
Taft M. K. and Roshan A. (2023). The Relation between Financial Literacy, Financial Wellbeing and Financial Concerns. International Journal of Business and Management. Vol. 8, Pages 63-75.
The Organization for Economic Cooperation and Development. (2011). Measuring Financial Literacy: Questionnaire and Guidance Notes for Conducting an Internationally Comparable Survey of Financial Literacy.
Toon W. Taris &Paul J.G. Schreurs. (2009). Well-being and organizational performance: An organizational-level test of the happy-productive worker hypothesis. Vol. 12, Pages 120-136.
Wichit U-on. (2007). Research and searching for business information. Bangkok: Print@me.
Wichit U-on. (2011). Research and search for business information. Bangkok: Sripatum University Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
