การพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยว เชิงโหยหาอดีต เพื่อสร้างสรรค์คุณค่าร่วม และมูลค่าเพิ่มโดยชุมชน
คำสำคัญ:
การพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยว; การท่องเที่ยวเชิงโหยหาอดีต; การท่องเที่ยวโดยชุมชนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการการท่องเที่ยวเชิงโหยหาอดีต 2) เพื่อพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยว เชิงโหยหาอดีต เพื่อสร้างสรรค์คุณค่าร่วม และมูลค่าเพิ่มโดยชุมชน เป็นการวิจัยและพัฒนาได้ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงโหยหาอดีตเป็นกรอบการวิจัย กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ให้ข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์ ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว จำนวน 12 คน ใช้วิธีคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ชนิด คือ 1)แบบสัมภาษณ์ 2)แบบสังเกต วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปรากฎการณ์และเชิงทฤษฎี
ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัญหาความต้องการการท่องเที่ยวเชิงโหยหาอดีตที่เคยรุ่งเรือง ของเมืองปากพนัง มีปัญหาจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง เกิดขากพื้นที่ท่องเที่ยวมียุงชุกชุมมาก ขยะที่มากับน้ำในแม่น้ำปากพนังมีมากทำลายทัศนียภาพ ด้านประวัติศาสตร์ มีนักเล่าเรื่องชุมชนที่น่าสนใจติดตาม มีน้อย การท่องเที่ยว กระจุกตัวเฉพาะพื้นที่ไม่มีการเชื่อมโยงข้อมูลด้านการท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยว ชุมชน องค์กร หน่วยงานและกลุ่มคนที่ประสาน จัดการดูแลจัดการกิจกรรมการท่องเที่ยว ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันยังไม่ชัดเจน ผลการวิจัยเพื่อพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยว เชิงโหยหาอดีต เพื่อสร้างสรรค์คุณค่าร่วม และมูลค่าเพิ่มโดยชุมชน พบว่า การพัฒนาด้านข้อมูลประวัติศาสตร์ในช่วงที่รุ่งเรืองควรมีจุดเก็บรวบรวม และจัดระบบให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงข้อมูลทั้งภาพถ่าย สิ่งของอิงประวัติศาสตร์ที่สะดวก ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวยในซาบซึ้งใจภาคภูมิใจในอดีตที่รุ่งเรือง ฝึกอบรมทักษะให้นักเล่าเรื่องที่น่าสนใจน่าติดตาม และพัฒนาความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยว กับชุมชน นำเสนอจุดเด่นด้านอาหารปากพนัง เมนูปลากระบอก เป็นปลาท้องถิ่นที่มีปริมาณมาก รสชาติอร่อยเฉพาะพื้นที่ 3 น้ำ (น้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย) อาหารหวานจากน้ำตาลจาก ที่พัก ที่ตั้งอยู่บริเวณชุมชนริมแม่น้ำปากพนังที่สะดวกและสัมผัสบรรยากาศอดีต ด้วยบริการเรือแจว เรือท้องแบบยุคก่อน ไปสัมผัส สถานที่และร่อยรอยประวัติศาสตร์ที่ประทับใจ
เอกสารอ้างอิง
Atkinson, P. (2007). Ethnography: Principles in practice. Routledge.
Creswell, J. W., & Creswell, J. D. (2018). Research design: qualitative, quantitative, and mixed methods approaches. Fifth edition. Los Angeles, SAGE.
Fennell, D. A., & Malloy, D. C. (1999). Measuring the ethical nature of tourism operators. Annals of Tourism Research, 26(4), 928-943.
Goulding, C. (2001). “Romancing the Past: Heritage Visiting and the Nostalgic Consumer.” Psychology and Marketing 18, 6565-592.
Kelly, William W. (1986). Rationalization and nostalgia: Cultural dynamics of new middle-class Japan. American Ethnologist 13 (November): 603-618.
Nakhon Si Thammarat Provincial Tourism and Sports Office, 2022 : online)
Niphatphong Phumma, & NarongKan RodSap. (2012). Longing for the past in the Thai tourism industry. Mekong-Salween Civilization Studies Journal, 3, 47-60.
Phinyaphat Muneekaew, NatRin PrinKulthon Suwaree namwong, & Santithorn Phuripakdee ChompooNuch JittiThawon. (2023) Analyzsis of Factors Influencing the Reception of Hotel Customer Experience Management in the west coast tourism development area. Journal of MCU BuddhaPanya Review, 8(5), 3-28.
PhrakruDilok WattanaPhon. (2023). The Knowledge management process for strengthen on the Bang Takhian community, Song Phi Nong District, Suphanburi Province. Journal of MCU BuddhaPanya Review, 8(3), 147-159.
PhrakruSakhon Khunaphon. (2023). Impact of Tourism management on local wisdom, Krathum Baen District, Samut Sakhon Province. Journal of MCU BuddhaPanya Review, 8(5), 220-228.
Scanlon, L. W. and Eheret, C. F. The Cure for Jet Lac. New York: Back2Press Books, 2008.
Sojilak KamonSakdaWikul, Supachai SinghYabut, Suphaphon JindamaneeRoj, & Amnat Yensabai. (2013). Samchuk Retro Market: Politics of Space and the Business of Nostalgia for the Past.
Surasak Kaewon (2019) Plan for sustainable development of river basin tourism. In Pak Phanang District Nakhon Si Thammarat Province. Office of the National Research Council and the Office of the Fund Support research.
Thanapa Chuaykaew, & Sudjai Jirojkul. (2019) Development of cultural anti-tourism along the banks of the estuary river to promote tourism marketing. Pak Chong District, Province Nakhon Si Thammarat. Academic Services Journal, Prince of Songkla University, 30(3), 80-97.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
