การสื่อสารการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์และเจนเนอเรชั่นวาย ในห้างสรรพสินค้า จังหวัดกรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะทางประชากรศาสตร์และเครื่องมือการสื่อสารการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์และเจนเนอเรชั่นวายในห้างสรรพสินค้า จังหวัดกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริโภคที่ใช้บริการห้างสรรพสินค้า กรุงเทพมหานคร เนื่องจากไม่ทราบจำนวนประชากรที่แน่นอน ดังนั้นจึงใช้จำนวนกลุ่มตัวอย่างจากการคำนวณโดยใช้สูตรการคำนวณแบบไม่ทราบจำนวนประชากร โดยใช้ระดับความเชื่อมั่น 95% และยอมให้คลาดเคลื่อนในการเลือกตัวอย่าง 5% จึงได้ขนาดกลุ่มตัวอย่างจำนวน 385 คน

ผลการวิจัยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีอายุ 31-40 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวและอิสระ มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 15,000 - 20,000 บาท ผลการวิจัย การสื่อสารการตลาด ด้านการโฆษณา มีการโฆษณา ณ จุดซื้อ (Point of Purchase) มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ 3.82 อยู่ในระดับมาก มีด้านการขายโดยพนักงานมีพนักงานเสนอสิทธิประโยชน์ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ 3.78 อยู่ในระดับมาก ด้านการประชาสัมพันธ์ มีโปสเตอร์ในการประชาสัมพันธ์ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ 3.74 อยู่ในระดับมาก ด้านการส่งเสริมการขาย  มีการใช้คะแนนจากเดอะวันเพื่อลุ้นชิงโชคต่างๆ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ 3.78 อยู่ในระดับมาก ด้านการตลาดทางตรงมีว่าการส่ง SMS/ E-mail เพื่อแจ้งข่าวสารโปรโมชั่น มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ 3.85 อยู่ในระดับมาก ด้านดิจิตอลมาร์เกตติ้ง การมีแอพพลิเคชั่นเพื่อสั่งซื้อสินค้าและสื่อสารโปรโมชั่น มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ 3.86 อยู่ในระดับมาก

เพศและอายุที่แตกต่างกันมีการสื่อสารการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์และเจนเนอเรชั่นวายในห้างสรรพสินค้า กรุงเทพมหานครที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การสื่อสารการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์และเจนเนอเรชั่นวาย ในห้างสรรพสินค้า กรุงเทพมหานครที่แตกต่างกัน ส่วนสถานภาพ อาชีพ รายได้ จากการทดสอบการสื่อสารการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค เจนเนอเรชั่นเอ็กซ์และเจนเนอเรชั่นวายในห้างสรรพสินค้า กรุงเทพมหานครไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05