กลยุทธ์การสร้างสรรค์งานโฆษณาของธุรกิจประกันชีวิต

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาระดับความสำคัญของปัจจัยด้านการพัฒนาทางธุรกิจ     ด้านกลุ่มเป้าหมาย ด้านบทบาทหน้าที่ ด้านการรับรู้ และด้านการซื้อ 2) เพื่อเปรียบเทียบกลุ่มตัวอย่างที่เคยทำประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์กับประกันชีวิตประเภทตลอดชีพ ประชากรคือบุคคลที่เคยทำประกันชีวิตและอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 ตัวอย่าง แบ่งเป็นผู้ทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพจำนวน 200 ตัวอย่าง และผู้ทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จำนวน 200 ตัวอย่าง ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ (t-test)

ผลการวิจัยพบว่า ระดับความสำคัญของกลยุทธ์การสร้างสรรค์งานโฆษณาของธุรกิจประกันชีวิตเมื่อจำแนกตามประเภทของประกันชีวิตในภาพรวมมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ให้ความสำคัญในภาพรวมมากกว่าประกันชีวิตประเภทตลอดชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สำหรับผลการวิเคราะห์ความแตกต่างของกลยุทธ์การสร้างสรรค์งานโฆษณาของธุรกิจประกันชีวิตจำแนกตามประเภทของประกันชีวิตรายด้านได้แก่ ด้านการพัฒนาทางธุรกิจ ด้านกลุ่มเป้าหมาย ด้านบทบาทหน้าที่ ด้านการรับรู้ ด้านการซื้อพบว่าทุกด้านมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05 โดยทุกด้านประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ให้ความสำคัญมากกว่าประกันชีวิตประเภทตลอดชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05