แนวทางการพัฒนาตนเองของพนักงานสู่ความเป็นมืออาชีพเพื่อสร้างความได้เปรียบ ในการแข่งขันของธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าในจังหวัดระยอง

ผู้แต่ง

  • พีรพันธ์ แสงเพชร นักศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ภาควิชาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี*พระจอมเกล้าพระนครหนือ

คำสำคัญ:

การพัฒนาตนเอง, ความเป็นมืออาชีพ, ความได้เปรียบในการแข่งขัน, อุตสาหกรรมไฟฟ้า

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาตนเองของพนักงานสู่ความเป็นมืออาชีพเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าในจังหวัดระยอง จำแนกตาม เพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ตำแหน่งงาน และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานของธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าในจังหวัดระยอง ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 100 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test, Anova และวิเคราะห์ความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วย Scheffe Analysis วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยโปรแกรม SPSS กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

ผลการวิจัยพบว่า พนักงานของธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าในจังหวัดระยองส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 25 – 35 ปี สถานภาพโสด ระดับการศึกษาปริญญาตรี ระยะเวลาในการปฏิบัติงานมากกว่า 10 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,000 – 40,000 บาท โดยภาพรวมมีการให้ความสำคัญต่อแนวทางการพัฒนาตนเองอยู่ในระดับมาก

การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยระดับการให้ความสำคัญ เมื่อจำแนกตามอายุ พบว่า ภาพรวมมีความแตกต่างกัน โดยมีความแตกต่างในรายด้าน จำนวน 6 รายการ ได้แก่ การเรียนรู้ การวินิจฉัยตนเอง การกำหนดเป้าหมาย การหาทรัพยากรที่เหมาะสม ความอดทนและพยายาม และการประเมินผล ส่วนการจำแนกตามเพศ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ตำแหน่งงานและรายได้เฉลี่ยต่อเดือน พบว่า ไม่มีความแตกต่างกัน

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2019-12-26

How to Cite

แสงเพชร พ. (2019). แนวทางการพัฒนาตนเองของพนักงานสู่ความเป็นมืออาชีพเพื่อสร้างความได้เปรียบ ในการแข่งขันของธุรกิจอุตสาหกรรมไฟฟ้าในจังหวัดระยอง. วารสารบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม, 1(2), 69–81. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/iba/article/view/232158