การพัฒนาวงจรของการเรียนรู้ที่มองเห็นได้ ด้วยการประยุกต์วิธีการสอนแบบเปิด: กรณีศึกษานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเพลินพัฒนา

Main Article Content

ศีลวัต ศุษิลวรณ์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการพัฒนาวงจรของการเรียนรู้ที่มองเห็นได้ ด้วยการประยุกต์วิธีการสอนแบบเปิด และเพื่อศึกษาผลของการประยุกต์วิธีการสอนแบบเปิด ที่มีต่อการพัฒนาความสามารถของครูในการจัดการสอน และการประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียน  กรณีศึกษา คือ ครูหน่วยวิชาภูมิปัญญาภาษาไทย โรงเรียนเพลินพัฒนา จำนวน 2 คน และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 120 คน ภายในระยะเวลา 10 สัปดาห์  เครื่องมือที่เป็นตัวแปรต้น คือ แผนการเรียนรู้ของหน่วยวิชาภูมิปัญญาภาษาไทย จำนวน 20 แผน และกระบวนการ Lesson study  เครื่องมือที่ใช้วัดตัวแปรตาม คือ 1) แบบบันทึกการพัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนการสอนของครู ที่ครูเป็นผู้ประเมินผลการทำงานของตนเอง ได้แก่ แบบบันทึกการทำ Lesson study  แบบบันทึกการเรียนรู้  แบบบันทึกการพัฒนางาน และ 2) ความรู้สึกอยากเรียน และผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ของผู้เรียน


ผลการวิจัยพบว่า 1) ครูมีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนเพิ่มขึ้น  2)  ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้เพิ่มขึ้น  3) การพัฒนางานของครูลดลง เมื่อผู้นิเทศลดการนิเทศลง สะท้อนให้เห็นว่าการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนของทีมครูยังไม่เกิดขึ้น          ข้อค้นพบสำคัญวิธีการสร้างแผนการเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1  ที่ช่วยสร้างรอยเชื่อมต่อระหว่างการเรียนรู้ในระดับอนุบาลและประถมศึกษาปีที่ 1 ให้เป็นไปอย่างราบรื่น

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ศุษิลวรณ์ ศ. (2020). การพัฒนาวงจรของการเรียนรู้ที่มองเห็นได้ ด้วยการประยุกต์วิธีการสอนแบบเปิด: กรณีศึกษานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเพลินพัฒนา. วารสารมนุษยสังคมศิลปาสาร, 1(1), 110–131. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/hsa/article/view/204256
ประเภทบทความ
บทความวิจัย