การพัฒนารูปแบบเทคโนโลยีความจริงเสริมในแหล่งท่องเที่ยว ตามเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดระนอง
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบสื่อความจริงเสริมในแหล่งท่องเที่ยวบนเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดระนอง สำหรับสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยวจากการใช้ความจริงเสริม 2) เพื่อประเมินการยอมรับรูปแบบสื่อความจริงเสริมบนเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดระนอง และ 3) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีความจริงเสริมให้กับเจ้าของแหล่งท่องเที่ยว
เชิงสุขภาพจังหวัดระนอง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่
1) สื่อความจริงเสริมในแหล่งท่องเที่ยวบนเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดระนอง 2) แบบประเมินคุณภาพด้านสื่อความจริงเสริม 3) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อสื่อความจริงเสริม 4) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางความรู้ ประชากรในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดระนอง กลุ่มตัวอย่าง คือ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจังหวัดระนอง จำนวน 400 คน โดยเลือกแบบตาราง Taro Yamane
ผลการวิจัย พบว่า 1) คุณภาพของรูปแบบสื่อความจริงเสริม จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อจำนวน 3 คน มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.53 มีคุณภาพในระดับดีมาก ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2) นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดระนองจำนวน 400 คน มีความพึงพอใจต่อสื่อความจริงเสริม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.50 3) คะแนนผลสัมฤทธิ์ในการอบรมของเจ้าของแหล่งท่องเที่ยว ก่อนอบรมกับหลังอบรม มีคาเทากับ 13.33 และมีผลสัมฤทธิ์ในการอบรม หลังอบรมสูงกว่ากอนอบรม อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ 0.1 แสดงให้เห็นว่าสื่อความจริงเสริมสามารถสร้างแรงจูงใจและมีผลต่อการยอมรับจากนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เข้ามาจังหวัดระนอง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2566, 3 เมษายน). สถิติด้านการท่องเที่ยว ปี 2566. https://www.mots.go.th/news/category/704
กานดา ธีรานนท์. (2561). การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศไทย: สถานการณ์และศักยภาพทางการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียน. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น, 12, 22-34.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2551). โครงการสำรวจระดับความรับรู้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของ ประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: ฝ่ายนโยบายวางแผน กองวางแผนการท่องเที่ยวฯ.
ดิเรก อัคฮาด. (2567). การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมย่านฝั่งธนบุรีด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม. วารสารก้าวทันโลกวิทยาศาสตร์, 24(1), 20-39.
ธงชัย ภูวนาถวิจิตร, อนิรุทธ์ สงค์ธนาพิทักษ์, สุชาครีย์ ศรีรัตน์, และศุภชัย แสงคำ. (2562). การพัฒนาแผนการตลาดการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการเพื่อสร้างให้จังหวัดเชียงรายเป็นจุดเชื่อมต่อการท่องเที่ยวของแหล่งอารยธรรมล้านนาผ่านพฤติกรรมนักท่องเที่ยวและการรับรู้สื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว. มนุษย์ศาสตร์สาร, 20(2), 11-39.
ธันย์ชนก ภู่สําลี และธนารักษ์ สารเถื่อนแก้ว. (2566). การใช้โปรแกรมประยุกต์บนระบบออนไลน์เพื่อส่งเสริมทักษะการออกแบบงานกราฟิก. Journal of Applied Education, 1(4), 29-36.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2557). การวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS และ AMOS (พิมพ์ครั้งที่ 15). เอส อาร์ พริ้นติ้ง แมสโปรดักส์.
ปรีดาพร อารักษ์สมบูรณ์. (2564). สมรรถนะของนักทรัพยากรมนุษย์มืออาชีพที่นำไปสู่การเพิ่ม ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานยุคดิจิทัล ในกลุ่มจังหวัดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก. การ ประชุมวิชาการระดับชาติ (น. 256-266). มหาวิทยาลัยรังสิต.
พัชรภรณ์ สุนทรวิบูลย์. (2561). นวัตกรรมการสื่อสารกับอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวยุคประเทศไทย 4.0. วารสารวิชาการนวัตกรรมสื่อสารสังคม, 6(2), 200-210.
มารุต พิเชษฐวิทย์, (2564). การออกแบบสื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดจากถั่งเช่า คอร์ดี้ โปร บริษัท ไทย คอร์ไดเซปส์ จำกัด จังหวัดสระแก้ว. วารสารศิลปปริทัศน 9(2), 64-70.
ศรัญญา ตรีทศ และทัสนันทน์ ตรีนันทรัตน์. (2562). แอปพลิเคชันส่งเสริมการท่องเที่ยว 7 เมนูอาหารที่ต้องชิมในจังหวัดเพชรบูรณ์ ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง. วารสารวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ, 9(1), 9–17. https://doi.org/10.14456/jist.2019.2
สิริวดี ชูเชิด. (2565) การพัฒนาสมรรถนะบุคลากรในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 12(1), 223-238.
Koca, B. A., Yüzgeç, U., & Çubukçu, B. (2021). An Augmented Reality Based Mobile Education Application for Preschool Children. BSEU Journal of Engineering Research And Technology, 2(1), 1-6.
Kysela, J., & Štorková, P. (2015). Using augmented reality as a medium for teaching history and tourism. Procedia-Social and behavioral sciences, 174, 926-931. https://doi.org/10.1016/j.sbspro.2015.01.713