รูปแบบการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนตำบลบ้านแวง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ และแนวทางการดำเนินงานด้านการส่งเสริมสุขภาพในชุมชน กลุ่มตัวอย่างคือผู้สูงอายุในชุมชนตำบลบ้านแวง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 285 คน เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ ซึ่งประกอบด้วย ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลภาวะสุขภาพและพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพสถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Study) ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงวิเคราะห์ เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของพฤติกรรมสุขภาพ และคุณภาพชีวิต ใช้ Paired t -test
ผลการวิจัย พบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่รับรู้ว่ามีสุขภาพดี คิดเป็นร้อยละ 46.7 และรู้สึกว่าสุขภาพไม่ดีร้อยละ 18.6 พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ การสุขาภิบาลที่อยู่อาศัย (ค่าเฉลี่ย 3.64) รองลงมาคือ พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพทางจิตวิญญาณและการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย (ค่าเฉลี่ย 3.40) ส่วนพฤติกรรมที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม (ค่าเฉลี่ย 3.03) ระดับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพโดยรวมอยู่ในระดับดีและดีมาก ในระยะที่ 2 ทีมวิจัยสรุปว่า กระบวนการส่งเสริมสุขภาพต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนและกระบวนการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น แนวคิดการพัฒนาสุขภาพภาคประชาชน การสร้างพลังอำนาจ และการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนสามารถพัฒนาศักยภาพด้านสุขภาพด้วยตนเอง ระยะที่ 3 การประเมินรูปแบบการมีส่วนร่วมและการศึกษาปัญหา พบว่า พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุระหว่างก่อนและหลังเข้าร่วมโครงการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05)