การวิเคราะห์หลักทรัพย์ กรณีศึกษา บริษัทบีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ตัวแปรที่มีผลต่อมูลค่าของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) และประเมินมูลค่ากิจการของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) การศึกษาในครั้งนี้ใช้ข้อมูลทุติยภูมิ(Secondary data) ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงปริมาณของบริษัทบีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) รายไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ.2556 ถึงไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ.2565 รวมระยะเวลา 10 ปี โดยวิธีสร้างสมการถดถอยเชิงซ้อน (Mutiple Linear Regression) ด้วยวิธีกำลังสองน้อยที่สุด (Ordinary Least Squares :OLS)
ผลการวิจัย พบว่า จากการหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรตาม คือ รายได้รวมของบริษัทและตัวแปรอิสระ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ดัชนีราคาค่าจ้างแรงงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค ความนิยมในการรับชมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล มูลค่าการใช้งบโฆษณา อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ทำการพยากรณ์ความสัมพันธ์ เพื่อนำผลที่ได้ไปพยากรณ์รายได้รวมของบริษัทฯในอีก 5 ปีข้างหน้า ผลปรากฏว่า ตัวแปรที่ส่งผลต่อมูลค่าของบริษัท คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศและดัชนีราคาค่าจ้างแรงงาน ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 โดยวิธีการประเมินมูลค่าบริษัทแบบที่ 1 โดยใช้วิธีคิดลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow : DCF) โดยการใช้กระแสเงินสดอิสระของกิจการ (Free Cash Flow to the Firm : FCFF) พบว่า มูลค่าหุ้นสามัญของบริษัทฯ เท่ากับ 12.45 บาทต่อหุ้น วิธีการประเมินมูลค่าบริษัทแบบที่ 2 วิธี Multiple Comparable โดยการหาค่าเฉลี่ยของอัตราส่วนต่าง ๆ ได้แก่ P/BV ratio ของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์เทียบเคียงกับอัตราส่วนต่าง ๆ ของบริษัทเป้าหมาย พบว่า มูลค่าหุ้นสามัญของบริษัทฯ อยู่ที่ช่วง 2.41-19.55 บาท/หุ้น โดยมีมูลค่าหุ้นสามัญเฉลี่ยอยู่ที่ 17.06 บาท/หุ้น