จริยธรรมการตีพิมพ์ผลงาน

จริยธรรมการตีพิมพ์ผลงานในวารสาร (Publication Ethics)

     วารสารวิทยาการจัดการวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการทางด้านบริหารธุรกิจ  การท่องเที่ยว การโรงแรม ธุรกิจบริการ และนิเทศศาสตร์ ของคณาจารย์ นักศึกษา นักวิชาการทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย และผู้สนใจทั่วไป ซึ่งมีการดำเนินการจัดพิมพ์และเผยแพร่โดยคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดังนั้นเพื่อให้การสื่อสารทางวิชาการเป็นไปอย่างถูกต้อง สอดคล้องกับมาตรฐานการตีพิมพ์ระดับนานาชาติ จึงได้กำหนดแนวทางวิธีปฏิบัติที่ดีและจริยธรรมของการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัย ตามข้อกำหนดของ Committee on Publication Ethics (COPE) สำหรับการดำเนินงานของวารสารวิทยาการจัดการวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ ตามบทบาทหน้าที่สำหรับบุคคล 3 กลุ่ม อันได้แก่ บรรณาธิการ (Editor) ผู้นิพนธ์ (Author) และ ผู้ประเมินบทความ (Reviewer) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการ (Duties of Editors)

1. บรรณาธิการมีหน้าที่ดำเนินงานวารสารให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของวารสาร ปรับปรุงและพัฒนาวารสารให้ได้มาตรฐานสากล

2. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณาและกลั่นกรองคุณภาพของบทความ เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร
โดยพิจารณาจากความสอดคล้องกับเนื้อหาและนโยบายของวารสารเป็นสำคัญ รวมถึงคัดเลือกบทความที่ผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ

3. บรรณาธิการต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้นิพนธ์และผู้ประเมินบทความแก่บุคคลอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ

4. บรรณาธิการมีหน้าที่ในการตรวจสอบการคัดลอกผลงานของผู้อื่น (Plagiarism) เพื่อไม่ให้บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารมีการคัดลอกผลงานของผู้อื่น โดยใช้โปรแกรมที่เชื่อถือได้ และเป็นที่ยอมรับในแวดวงวิชาการ ทั้งนี้หากตรวจพบการคัดลอกผลงานผู้อื่น กองบรรณาธิการจะหยุดดำเนินการพิจารณาบทความและติดต่อผู้เขียนเพื่อให้มีการชี้แจงประกอบการพิจารณาในการตอบรับหรือปฏิเสธการตีพิมพ์ผลงาน

5. บรรณาธิการต้องไม่ตีพิมพ์บทความที่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ที่แหล่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว และไม่ปฏิเสธการตีพิมพ์บทความโดยใช้เหตุผลและความรู้สึกส่วนตัว

6. บรรณาธิการต้องอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้นิพนธ์  ผู้ประเมินบทความและผู้ที่เกี่ยวข้อง 

 

บทบาทและหน้าที่ของผู้นิพนธ์ (Duties  of Authors)

1. ผู้นิพนธ์ต้องรับรองว่าผลงานของตนที่ส่งมานั้นเป็นผลงานที่ไม่เคยได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในแหล่งใด ๆ มาก่อนและไม่มีการคัดลอกผลงานของผู้อื่น โดยต้องมีการอ้างอิงทุกครั้งเมื่อนำผลงานของผู้อื่นมานำเสนอหรืออ้างอิง 

2. ผู้นิพนธ์ต้องเขียนบทความวิจัยหรือบทความวิชาการให้ถูกต้องตามรูปแบบที่วารสารกำหนดไว้

3. ผู้นิพนธ์ต้องรายงานผลที่เกิดขึ้นจากการทำวิจัย โดยไม่บิดเบือนข้อมูลหรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ (กรณีบทความวิจัย)

4. ผู้นิพนธ์ที่มีชื่อปรากฏในบทความทุกคนต้องเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการวิจัยจริง

5. ผู้นิพนธ์ต้องไม่นำผลงานไปเผยแพร่หรือตีพิมพ์กับแหล่งตีพิมพ์อื่นอีกหลังจากได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่กับวารสารวิทยาการจัดการวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์แล้ว

6. บทความที่ส่งเข้ารับการพิจารณาตีพิมพ์ ต้องผ่านการตรวจการพิมพ์ซ้ำด้วยระบบอักขราวิสุทธิ์ โดยมีเกณฑ์การตรวจสอบไม่เกินร้อยละ 10 พร้อมแนบใบรับรองการตรวจสอบส่งมายังกองบรรณาธิการ

7. ผู้เขียนต้องรับรองว่าผลงานที่ส่งเข้ารับการพิจารณาตีพิมพ์ มีความถูกต้องของเนื้อหา รายงานข้อมูล และผลการวิจัยที่เกิดขึ้นจากการทำวิจัยจริง และรับผิดชอบต่อความคิดเห็นหรือข้อสรุปในบทความที่นำมาตีพิมพ์

 

บทบาทและหน้าที่ของผู้ประเมินบทความ (Duties  of  Reviewers)

1. ผู้ประเมินบทความต้องรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความที่พิจารณาแก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง

2. ผู้ประเมินบทความต้องไม่แสวงหาประโยชน์จากผลงานทางวิชาการที่ตนเองได้ประเมิน และไม่ควรมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์ 

3. ผู้ประเมินบทความต้องคำนึงถึงคุณภาพของบทความเป็นหลัก ควรพิจารณาบทความภายใต้หลักการและเหตุผลทางวิชาการโดยปราศจากอคติ หรือความเห็นส่วนตัว 

4. ผู้ประเมินบทความควรตระหนักว่าตนเองมีความรู้ ความเข้าใจ ความเชี่ยวชาญในเนื้อหาของผลงานทางวิชาการที่ประเมินอย่างแท้จริง โดยพิจารณาความสำคัญด้านเนื้อหาในบทความ คุณภาพของการวิเคราะห์ข้อมูล และความเข้มข้นของผลงาน

5. ผู้ประเมินบทความจะต้องพิจารณาคุณภาพจากความสำคัญ ความทันสมัย และความชัดเจนของเนื้อหาในบทความ รวมถึงคุณภาพการวิเคราะห์และการเข้มข้นของผลงาน

6. ผู้ประเมินบทความจะต้องพิจารณาและระบุผลงานวิจัยที่สำคัญ มีความสอดคล้องกับบทความที่กำลังดำเนินการประเมินแต่ผู้เขียนไม่ได้อ้างถึง เข้าไปในการประเมินบทความด้วย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการปรับแก้ไขและพัฒนาคุณภาพของบทความ

7. หากผู้ประเมินบทความ ตรวจพบว่าบทความที่พิจารณาอยู่ มีความเหมือนหรือความซ้ำซ้อนกับผลงานชิ้นอื่น ผู้ประเมินบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการทราบด้วย

8. ผู้ประเมินบทความต้องรักษาระยะเวลาในการประเมินพิจารณาบทความตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด

 

การรับรองความถูกต้องของผลงานทางวิชาการ

    เมื่อมีการรับรู้ว่ามีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นกับบทความวิชาการที่ตีพิมพ์ไปแล้ว รวมถึงมีประโยคที่นำไปสู่ความเข้าใจผิด หรือเป็นรายงานที่บิดเบือนข้อเท็จจริง บรรณาธิการจะดำเนินการแก้ไขทันทีด้วยขั้นตอนที่มีความชัดเจน
   หากปรากฏการประพฤติทุจริตภายหลังการดำเนินการตรวจสอบแล้ว บรรณาธิการจะดำเนินการเพิกถอนบทความนั้นพร้อมด้วยหลักฐานที่ปรากฎและสามารถพิสูจน์ได้ ทั้งนี้การเพิกถอนนี้ต้องให้ผู้อ่านและระบบฐานข้อมูลอื่น ๆ ทราบด้วย
   ในกรณีที่ผู้นิพนธ์ทำผิดข้อตกลง วารสารจะตัดสิทธิการตีพิมพ์ผู้นั้นเป็นระยะเวลา 3 ปี และวารสารจะแจ้งหน่วยงานที่ผู้นิพนธ์สังกัดหรือแล้วแต่กรณี