การพัฒนาหลักสูตรความรู้ด้านกฎหมายในการส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อของประชาชน
คำสำคัญ:
การพัฒนาหลักสูตร, การรู้เท่าทันสื่อ, กฎหมายสื่อบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ทันเพื่อพัฒนาหลักสูตรความรู้ด้านกฎหมายในการส่งเสริมการรู้เท่าทันของสื่อประชาชนและเพื่อประเมินผลหลักสูตรความรู้ด้านกฎหมายในการส่งเสริมการรู้เท่าเทียมสื่อของประชาชนโดยการดำเนินการใช้วิธีการวิจัยแบบมีส่วนร่วม บูรณการ วิธีการเชิงคุณภาพ องค์กรเชิงปริมาณภายใต้การควบคุมการวิจัยแบบสำรวจมี 4 ระยะถึงระยะการรักษาระยะการควบคุมระยะการพัฒนาและระยะสะท้อนโดยจากการวิจัยพบว่ามีการพัฒนาหลักสูตรความรู้ด้านกฎหมายใน ส่งเสริมการรู้อย่างเท่าเทียมกันทันสื่อของประชาชนมีการตรวจสอบและเหตุการณ์ทุกส่วนของร่างกายหลักสูตรจำนวน 4 คุณสมบัติดังกล่าว 1 การรู้เท่าทันสื่อ, นักฆ่า 2 กฎหมายสิทธิของสื่อผู้บริโภค, 3 กฎหมายและการควบคุมสื่อและประสิทธิภาพของเจล 4 การสอบสวนสื่อหลังจากนั้นไม่นานจะ
นำหลักสูตรไปจัดการอบรมให้แก่ผู้มีส่วนควบคุมส่วนต่างๆ จำนวน 10 นี้ทราบผล หลักสูตรความรู้และกฎหมายในการส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อของประชาชนมีความเข้มข้นก่อนการฝึกอบรมในสาระสำคัญของทุกองค์กรประชาชนมีคะแนนต่ำกว่าหลังการอบรมจะทดสอบค่าสถิติ t-test พบว่ามี เรียนรู้หลังเรียนจากการอบรมด้วยหลักสูตรความรู้ด้านกฎหมายในการส่งเสริมการรู้เท่าทันของสื่อประชาชนก่อนเรียนทางสถิติที่ .05
เอกสารอ้างอิง
ชนัญชิดา สุขทัศน์ และผุสดี กลิ่นเกษร. (2565). การพัฒนาหลักสูตรเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อสังคมออนไลน์
ด้วยเทคนิคกิจกรรมการบูรณาการการจัดการเรียนรู้สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. Journal of Modern Learning Development, 7(11).
พนม คลี่ฉายา. (2559). การใช้งาน ความเสี่ยง การรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล และแนวทางการสอนเพื่อการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล สำหรับนักเรียนมัธยมในประเทศไทย ระยะที่ 2: รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
สุมาลี วงษ์วิฑิต. (2565). มาตรการทางกฎหมายและการรู้เท่าทันสื่อเพื่อต่อสู้กับข่าวปลอม. วารสารกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, 1(3), 1-28.
สำนักงาน กสทช. (2564). รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2563.สืบค้นเมื่อ 18 พฤษภาคม 2567 จาก . https://dl.parliament.go.th/backoffice/viewer2300/web/viewer.php.
Center for Media Literacy. (2008). Literacy for the 21st century: An overview & orientation guide to media literacy education. (2nd ed.). Malibu. CA: Center for Media Literacy.
CiTS. (2022). What is Fake News. Retrieves April 4, 2024, from https://www.cits.ucsb.edu/fake-news/what-is-fake-news.
European Commission. (2018). Code of practice on disinformation. Retrieved April 12, 2024 from https://ec.europa.eu/digital-single-market/en/news/code-practice-disinformation
Heins, M. & Cho, C. (2003). Media Literacy: An Alternative to Censorship. New York: Free Expression Policy Project.
OFCOM. (2008). What is media literacy?. Retrieved April 12, 2024 from Retrieved April 12, 2024 from http://www.ofcom.org.uk/advice/media_literacy/of_med_lit/whatis/
Potter, W.J. (2004). Theory of media literacy: A Cognitive approach. California USA: Sage Publications. Potter, W. J. (2014). Media Literacy (7th ed.). London: Sage.
Potter, W.J. (2005). Media Literacy (3rd ed.). California: Sage.
Silverblatt, A. & Eliceiri, E.M.E. (1997). Dictionary of Media Literacy. Westport, Conn: Greenwood Press.
Verbruggen, Y. (2021). Fake news. Retrieves April 14, 2024, from https://www.ibanet.org/article/ 0adbdb24-c0c2-4cc8-bef8-e9b172dcf12a.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารกฎหมายและการเมืองการปกครอง

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและการเมืองการปกครอง ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ห้ามผู้ใดนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นอกจากนี้ เนื้อหาที่ปรากฎในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์

