A Study on Youth Perceptions of Corruption: The Case of Suan Dusit University Students
Keywords:
Perception, Youth, CorruptionAbstract
This research aims to study the level of youth perception regarding the problem of corruption and to examine the factors influencing their perception of corruption. The sample group consisted of youths aged 18–20 years who were first- and second-year students at Suan Dusit University. A simple random sampling method using Cochran’s formula was employed, resulting in a sample size of 385 participants. Data were collected using a questionnaire, with content validity verified by an Index of Item-Objective Congruence (IOC) ranging from 0.67 to 1.00. The reliability, assessed using Cronbach's alpha coefficient, ranged from 0.87 to 0.95. The data were analyzed using descriptive statistics and multiple regression analysis.
The findings revealed that the overall level of youth perception regarding the corruption problem was high, with a mean score of 3.79 and a standard deviation of 0.99. Furthermore, when analyzing the four influencing factors—(1) education and knowledge, (2) moral and ethical values, (3) social norms or reference groups, and (4) mass media and social media—through multiple regression analysis, it was found that all factors significantly influenced youth perception of corruption at the 0.01 statistical significance level.
References
เกตุม สระบุรินทร์. (2561). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมความซื่อสัตย์ของนักเรียนมัธยมต้นในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล: วิเคราะห์พหุกลุ่ม. ดุษฎีนิพนธ์สาขาวิจัย วัดผลและสถิติการศึกษา มหาวิทยาลัยบูพา: ชลบุรี
ทิวากร แสร์สุวรรณ และ ธนัสถา โรจนตระกูล. (2565). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้กับการมีส่วนร่วมของประชาชน
ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน: กรณีศึกษาเขตเทศบาลนครพิษณุโลก. Journal of Roi Kaensarn Academi, 7(9): 349-364. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/JRKSA/article/ view/255713/173627
นวิยา สามนปาล และ ฐิติ วิทยสรณะ. (2564). การรับรู้ข่าวสารการทุจริตคอร์รัปชันกับทัศนคติและพฤติกรรมการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารนิเทศศาสตรปริทัศน์, 25(3): 79-90.
เพ็ชรัตน์ ไสยสมบัติ. (2558). การศึกษาทัศนคติของนิสิตนักศึกษาที่มีต่อปัญหาคอร์รัปชัน. การประชุมวิชาการระดับชาติ SMARTS ครั้งที่ 5 วันที่ 3 กรกฎาคม 2558 ณ คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร กรุงเทพฯ. http://www.smartssociety.com/proceedings/smarts5/PDF2015/0.รายละเอียดโครงการ.pdf
วัชระ จิรฐิติกาลกิจ. (2563). ความสัมพันธ์ของเสรีภาพสื่อมวลชนกับการคอร์รัปชันในสังคมไทย. วารสารนิเทศศาสตรปริทัศน์, 24(1): 121-132. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/jca/article/view/245417/166316
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ. (2567). โครงการ STRONG CAMP เยาวชนไทยต้านโกง. https://www.nacc.go.th/categorydetail/2019111910162091/20240818151504?
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ. (2567). ดัชนีการรับรู้การทุจริต. https://www.nacc.go.th/ categorydetail/2018083118464105/20240130143633?
สุธิดา พัฒนศรีวิเชียร. (2566). บทบาทหน้าที่ อุปสรรค และแนวทางในการใช้สื่อเพื่อต่อต้านการทุจริต. วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 21(1): 150-176.
สุปรีญา นุ่นเกลี้ยง และ ศิริลักษณ์ คัมภิรานนท์. (2562). การรับรู้การทุจริตคอร์รัปชันและการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในความเป็นพลเมืองของนักศึกษา: ศึกษากรณี มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. วารสารวิทยบริการ, 30(3): 138-152.
สุวรรณ ไตรมาลัย. (2560). บทบาทของสื่อมวลชนต่อการป้องกันและแก้ไขการทุจริตคอร์รัปชัน. การประชุมวิชาการระดับชาติ ด้านการบริหารกิจการสาธารณะ ครั้งที่ 4 “การบริหารกจการสาธารณะภายใต้ประเทศไทย 4.0”. วันที่ 4 สิงหาคม 2560 ณ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
อนุวัตร จุลินทร, ดุษฎี โยเหลา และ เพ็ชรัตน์ ไสยสมบัติ. (2562). ทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผลและทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนการนำไปประยุกตฺใช้ด้านธุรกิจ. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, Silpakorn University สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ, 12(5): 128-145. https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ Veridian-E-Journal/article/view/182000/149954
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2025 Journal of Law and Political Affairs

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ห้ามผู้ใดนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นอกจากนี้ เนื้อหาที่ปรากฎในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์

