แนวทางการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ตามหลักสัปปายะ 7 ของวัดในจังหวัดนนทบุรี

Main Article Content

พระอุดมสิทธินายก
พระครูวิรุฬห์สุตคุณ
สมศักดิ์ บุญปู่

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการใช้แหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ของวัดในจังหวัดนนทบุรี 2) เพื่อศึกษาวิธีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ตามหลักสัปปายะ 7 ของวัดในจังหวัดนนทบุรี และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ตามหลักสัปปายะ 7 ของวัดในจังหวัดนนทบุรี การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพระภิกษุในจังหวัดนนทบุรี จำนวน 242 รูป ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐาน คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาวัดให้เป็นพื้นที่แหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ รวมถึงผู้ใช้บริการ จำนวน 15 รูป/คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา


ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการใช้แหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ของวัดในจังหวัดนนทบุรี ในภาพรวม มีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านที่มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ด้านการออกแบบข้อมูล ด้านผู้ถ่ายทอดความรู้ ด้านสื่อการเรียนรู้ ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ และด้านข้อมูลความรู้ ตามลำดับ 2) วิธีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ตามหลักสัปปายะ 7 ของวัดในจังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วย (1) ด้านข้อมูลความรู้ จัดระบบความรู้ให้เป็นหมวดหมู่ เข้าใจง่าย พร้อมนำไปใช้ประโยชน์ ใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย จัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ (2) ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ส่งเสริมทักษะการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์และประเมินค่า เน้นการเรียนรู้จากการลงมือทำและผู้เรียนมีส่วนร่วม บูรณาการเทคโนโลยีสร้างบรรยากาศการเรียนรู้แบบ Active Learning (3) ด้านสื่อการเรียนรู้ สื่อมีความหลากหลาย เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เนื้อหาและกลุ่มเป้าหมาย จัดการสื่ออย่างเป็นระบบ ดูแลรักษา ให้ง่ายต่อการเข้าถึง บูรณาการสื่อเข้ากับกิจกรรมการเรียนรู้ (4) ด้านผู้ถ่ายทอดความรู้ มีความเชี่ยวชาญในเรื่องที่จะถ่ายทอด มีทักษะการสื่อสารที่ดี มีบุคลิกภาพและเป็นแบบอย่างที่ดี ส่งเสริมความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม (5) ด้านการออกแบบข้อมูล นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจ กระชับ ชัดเจน เข้าใจง่าย ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ จัดการข้อมูลเป็นระบบ เข้าถึงง่าย อัพเดทข้อมูลสม่ำเสมอ 3) แนวทางการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ตามหลักสัปปายะ 7 ของวัดในจังหวัดนนทบุรี วัดในจังหวัดนนทบุรี เป็นการพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ตามหลักสัปปายะ 7 โดยจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น ห้องสมุด Co-working space และพื้นที่ธรรมชาติ จัดหาอาหารที่มีประโยชน์ มีบุคลากร เช่น พระภิกษุ สามเณร ผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น ที่สามารถเป็นผู้นำแบบอย่างและให้คำปรึกษาเชื่อมโยงหลักธรรมคำสอนเข้ากับเนื้อหาที่ทันสมัยเช่น การ์ตูน แอนิเมชั่น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้เกิดความคิดริเริ่ม ส่งเสริมการเปิดใจและปลูกฝังความเพียรพยายาม ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน นำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและสังคม

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
พระอุดมสิทธินายก, พระครูวิรุฬห์สุตคุณ, & บุญปู่ ส. . (2025). แนวทางการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ตามหลักสัปปายะ 7 ของวัดในจังหวัดนนทบุรี. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 6(2), 1–12. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JOB_EHS/article/view/289806
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

พระครูวัฒนสุตานุกูล. (2557). กระบวนการพัฒนาวัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของคณะสงฆ์ไทย. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระพรชาติ พุทฺธสโร (ภาคพรม). (2561). การศึกษาหลักสัปปายะที่เกื้อกูลต่อการปฏิบัติธรรมของสำนักปฏิบัติธรรมในเขตจังหวัดสุรินทร์. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2551). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพมหานคร: เอส อาร์ พริ้นติ้ง แมสโปรดักส์.

พระมหาสมถวิล ปภาโส (อิหนิม). (2562). การบริหารจัดการสำนักปฏิบัติธรรมในเขตกรุงเทพมหานครตามหลักสัปปายะ 7. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาสุทิตย์ อาภากโร และคณะ. (2556). การพัฒนาระบบการบริหารจัดการและการสร้างเครือข่ายองค์กรพระพุทธศาสนาในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ.

Cronbach, Lee J. (1971). Essentials of psychological testing. 4 th ed. New York: Harper & Row.

Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale in Reading in Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.