แนวทางการสร้างแรงจูงใจการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักภาวนา 4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี

Main Article Content

วิริทธิพล เดชสิทธิ์นัจกร
พระครูสังฆรักษ์จักรกฤษณ์ ภูริปญฺโญ
เผด็จ จงสกุลศิริ

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแรงจูงใจการบริหารงานกิจการนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี 2) เพื่อศึกษาวิธีการสร้างแรงจูงใจการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักภาวนา 4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการสร้างแรงจูงใจการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักภาวนา 4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยทำการศึกษาข้อมูลเอกสารจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ ควบคู่กับการวิจัยเชิงปฏิบัติการภาคสนาม โดยเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 12 รูป/คน และนำข้อมูลในประเด็นที่ได้ศึกษามาสังเคราะห์สร้างเป็นกระบวนการในการสร้างแรงจูงใจการบริหารงานกิจการนักเรียนโรงเรียนปทุมวิไล


ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาแรงจูงใจการบริหารงานกิจการนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี พบว่าการบริหารงานกิจการนักเรียนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและพัฒนาทักษะชีวิตการทำงานเป็นทีม การแก้ปัญหา และการสร้างความสัมพันธ์ รวมถึงการสร้างบรรยากาศการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์การบริหารกิจการนักเรียนประสบผลสำเร็จอย่างยั่งยืน 2) ผลการศึกษาการสร้างแรงจูงใจการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักภาวนา 4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี การบริหารงานกิจการนักเรียนแบบมีส่วนร่วม มีการบูรณาการคุณธรรมในชีวิตประจำวัน พร้อมใช้การเสริมแรงบวกเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงพฤติกรรมที่เหมาะสม มุ่งเน้นพัฒนานักเรียนทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม ผ่านกิจกรรมจิตอาสาและโครงการที่ตอบสนองความสนใจของนักเรียน การส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมให้พวกเขาเผชิญกับความท้าทายในอนาคตอย่างมั่นคงและมีคุณธรรม 3) แนวทางการสร้างแรงจูงใจการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักภาวนา 4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี 4 แนวทางดังนี้ (1) การบริหารงานแบบมีส่วนร่วม มีการนำหลักกายภาวนาเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันกันระหว่างครูและนักเรียน สร้างสุขภาพที่ต่อการออกกำลังกาย มีสุขภาพปราศจากโรคภัยต่างๆ (2) การปรับพฤติกรรมมุ่งเน้นฝึกกาย วาจาและจิต ใช้หลักศีลภาวนาบูรณาด้วยกิจกรรมเป็นฐานในการพัฒนา และเป็นการลดความขัดแย้งอาจจะเกิดขึ้น (3) การบูรณาการด้วยหลักของจิตภาวนา เพื่อเสริมสร้างความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ฝึกอบรมสุขภาพด้วยการฝึกสมาธิ จะช่วยให้เกิดความมั่นคงทางอารมณ์ และจิตใจ (4) การเสริมสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยการส่งเสริมคุณค่าทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม สนับสนุนกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาด้วยจิตปัญญาภาวนา เกิดสภาวความเข็มแข็งทางจิตใจ พิจารณาด้วยเหตุผล มีจิตสำนึกในการทำประโยชน์ให้กับสังคม

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
เดชสิทธิ์นัจกร ว., ภูริปญฺโญ พ. ., & จงสกุลศิริ เ. . (2025). แนวทางการสร้างแรงจูงใจการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักภาวนา 4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปทุมธานี. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 6(2), 92–104. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JOB_EHS/article/view/289796
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). มาตรฐานการปฏิบัติงานโรงเรียนมัธยมศึกษา พ.ศ. 2552. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.

เจนจิรา อักษรเงิน. (2566). การสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ชาคริต สุวรรณวงษ์, เกษม แสงนนท์ และสุทธิพงษ์ ศรีวิชัย. (2568). แนวทางการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของครูตามหลักภาวนา 4 กลุ่มสหวิทยาเขตปทุมเบญจา จังหวัดปทุมธานี. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 6(1), 102-113.

ภูษณิศา วรสายัณห์, พระครูภัทรธรรมคุณ และพระมหาญาณวัฒน์ ฐิตวฑฺฒโน. (2565). แนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำยุคดิจิทัลตามหลักภาวนา 4 ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 2. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 9(2), 335–345.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้าอุตรดิตถ์. (2567). คู่มือการบริหารกิจการนักเรียน. แหล่งที่มา https://www.tunu.ac.th/ สืบค้นเมื่อ 10 สิงหาคม 2567.

วิศรุต คงเทพ. (2565). การบริหารงานกิจการนักเรียนตามแนวโรงเรียนวิถีพุทธที่ส่งผลต่อพฤติกรรมจิตสาธารณะของนักเรียนในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

lifestudies.net. (2567). การพัฒนาที่ยั่งยืน : ภาวนา 4 - ธรรมานามัย. แหล่งที่มา https://www.lifestudies.net/Article_202_1120.html สืบคนเมื่อ 1 สิงหาคม 2567.

Mary Elizabeth Cranley. (2003). Tassaban School : The Moral Life of a Thai Primary School. Dissertation Abstracts International, 65(5), 1531.

Cronbach, Lee J. (1971). Essentials of psychological testing. 4 th ed. New York: Harper & Row.

Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale in Reading in Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.