แนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการตามหลักโกศล 3 ของโรงเรียนมัธยมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความจำเป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนมัธยมศึกษา 2) เพื่อศึกษาวิธีการการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการตามหลักโกศล 3 ของโรงเรียนมัธยมศึกษา 3) เพื่อเสนอแนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการตามหลักโกศล 3 ของโรงเรียนมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี 1) การวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครู จำนวน 169 คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐาน คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2) การวิจัยเชิงคุณภาพใช้แบบสัมภาษณ์ทำการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 7 รูป/คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) ความต้องการจำเป็นความจำเป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนมัธยมศึกษาพบว่า ความต้องการจำเป็น อันดับ 1 คือ ด้านการพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษา รองลงมาคือ ด้านการวัดผลประเมินผลและดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน ด้านการพัฒนาและใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ และอันดับสุดท้าย คือ ด้านการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา 2) วิธีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการตามหลักโกศล 3 ของโรงเรียนมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง ได้แก่ การสามารถนำเทคโนโลยีครูและบุคลากรพัฒนาตนเองในด้านวิชาการหรือทักษะใหม่ๆ สารสนเทศ เพื่อนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาการบริหารงานวิชาการ สามารถเข้าถึงระบบการเรียนรู้เพื่อจัดการการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อป้องกันปัญหาและจัดการสิ่งที่อาจเป็นอุปสรรค ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต เลือกใช้แพลตฟอร์มการเรียนการสอนออนไลน์ การใช้วิธีการหรือเครื่องมือที่เหมาะสมและชาญฉลาดในการบรรลุเป้าหมายเพื่อให้เนื้อหาน่าสนใจและเข้าใจง่าย 3) แนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการตามหลักโกศล 3 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง ประกอบด้วย การวิเคราะห์ความต้องการของผู้เรียน ปรับตามยุคสมัยใหม่ให้ทันสมัยตามการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ การสำรวจความต้องการของผู้เรียนและผู้ปกครอง ออกแบบโครงสร้างหลักสูตรเป็นกระบวนการวางแผนและจัดระบบเนื้อหา กิจกรรม และการประเมินผล ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน เน้นการเรียนรู้แบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลางประเมินทั้งจากครู ผู้เรียน และผู้ปกครองปรับปรุงเนื้อหาและวิธีการสอนให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ส่งเสริมการอบรมครูในเรื่องเทคนิคการสอนใหม่ๆ สนับสนุนการทำงานเป็นทีมเพื่อสร้างสรรค์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารฯ ได้กำหนดความซ้ำของผลงาน ด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 25%
ในกรณีที่ บทความวิจัยมีกระบวนการวิจัยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์จะต้องส่งหลักฐานการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์มาประกอบการลงตีพิมพ์ด้วยจึงจะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสาร
ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ รวมทั้งระบบการอ้างอิงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ โดยรวมทั้งทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์และวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
นริศรา วงษ์น้อย. (2566). แนวทางการบริหารงานวิชาการในยุคฐานวิถีชีวิตใหม่ตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครปฐม เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
นิตยปภา จันทะปัสสา. (2562). การพัฒนาระบบสารสนเทศการบริหารงานบุคคลโรงเรียนบ้านดอนตูมดอนโดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปกร.
พุทธทาสภิกขุ. (2560). ธรรมะในฐานะวิทยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ธรรมสภา.
รัชดาภรณ์ ณรงค์กูล. (2564). การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 3. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา, 3(2), 94.
รุ่งนภา คำเทศ, พระครูกิตติญาณวิสิฐ และพระมหาสมบัติ ธนปญฺโญ. (2566). แนวทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาในยุคปกติวิถีใหม่. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร, 4(2), 128-140.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสิงห์บุรี อ่างทอง. (2567). ข้อมูลพื้นฐานในการบริหารงาน. แหล่งที่มา https://www.sesasingthong.go.th/ สืบค้นเมื่อ 10 ส.ค. 2567.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น ฉบับปรับปรุง. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อภิญญา รัตนโกเมศ. (2551). การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 3. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
Cronbach, Lee J. (1971). Essentials of psychological testing. 4 th ed. New York: Harper & Row.
Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale in Reading in Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.