การส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานทั่วไปตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียน ในกลุ่มภาชีระพีพัฒน์สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานทั่วไปของโรงเรียนในกลุ่มภาชีระพีพัฒน์ 2) เพื่อศึกษาวิธีการส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานทั่วไปตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียนในกลุ่มภาชีระ และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานทั่วไปตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียนในกลุ่มภาชีระพีพัฒน์ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี คือ การวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามประชากรทั้งหมดในการวิจัยที่เป็นครูและผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 100 คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐาน คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพใช้การสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 7 รูป/คน ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานทั่วไปของโรงเรียนในกลุ่มภาชีระพีพัฒน์ โดยรวมอยู่ในระดับมากทั้ง 4 ด้าน เนื่องจากผู้บริหารให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ การส่งเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงาน ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านการดำเนินงานธุรการ ด้านงานบริหารจัดการอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อม และด้านงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการศึกษา ตามลำดับ 2) วิธีการพัฒนาการส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานทั่วไปตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียนในกลุ่มภาชีระพีพัฒน์ โดยการบูรณาการตามหลักสังคหวัตถุ 4 ได้แก่ ทาน (การให้) ปิยวาจา (การพูดจาไพเราะ) อัตถจริยา (การประพฤติเป็นประโยชน์) และสมานัตตตา (การวางตนเสมอภาค) มุ่งเน้นการจัดสรรทรัพยากรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย การส่งเสริมการใช้ภาษาที่สุภาพ การพัฒนากระบวนการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ และการสร้างบรรยากาศการทำงานที่เท่าเทียม ถือเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาโรงเรียนอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนจะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาและเสริมสร้างความเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ที่มีความเสมอภาคและครอบคลุมทุกภาค 3) แนวทางการส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานทั่วไปตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของโรงเรียนในกลุ่มภาชีระพีพัฒน์ โดยการบูรณาการตามหลักสังคหวัตถุ 4 ได้แก่ ทาน (การให้) ปิยวาจา (การพูดจาไพเราะ) อัตถจริยา (การประพฤติเป็นประโยชน์) และสมานัตตตา (การวางตนเสมอภาค) มีแนวทาง มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน และพัฒนาทักษะบุคลากรให้มีมาตรฐานและความเป็นธรรม ด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาสนับสนุนการเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัลและการใช้ AI รวมถึงการสร้างเครือข่ายเพื่อแบ่งปันทรัพยากร ด้านสิ่งแวดล้อมส่งเสริมโครงการอนุรักษ์พลังงานและเพิ่มพื้นที่สีเขียวผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะ และด้านการประชาสัมพันธ์มุ่งพัฒนาสื่อที่เข้าถึงง่าย ใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายการสื่อสารและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ทั้งหมดนี้ช่วยให้สถานศึกษาก้าวหน้าที่ยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของผู้เรียนและชุมชน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารฯ ได้กำหนดความซ้ำของผลงาน ด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 25%
ในกรณีที่ บทความวิจัยมีกระบวนการวิจัยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์จะต้องส่งหลักฐานการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์มาประกอบการลงตีพิมพ์ด้วยจึงจะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสาร
ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ รวมทั้งระบบการอ้างอิงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ โดยรวมทั้งทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์และวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
พระครูธำรงวงศ์วิสุทธิ์ (ธีรศักดิ์ ธีรสกฺโก), พระมหาสมบัติ ธนปญฺโญ และลำพอง กลมกูล. (2566). ศึกษาองค์ประกอบการพัฒนาการจัดการงานสาธารณสงเคราะห์วิถีพุทธของคณะสงฆ์ไทย. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 4(1), 1-9.
พระครูวิธานวรานุกูล (ศักดิ์สิทธิ์ ถาวรคุโณ). (2564). รูปแบบการพัฒนาการบริหารงานทั่วไปตามหลักพละ 5 ในโรงเรียน ประถมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตโต). (2559). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 34. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิการศึกษาเพื่อสันติภาพ พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตโต).
โยธิกา เลิศรัตยากุล, พระมหาญาณวัฒน์ ฐิตวฑฺฒโน, สมศักดิ์ บุญปู่ และกฤษฎา นันทเพ็ชร. (2564). ระบบการส่งเสริมดูแลช่วยเหลือนักเรียนสำหรับสถานศึกษาตามหลักพุทธธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 8(3), 166–179.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2550).แนวทางการกระจายอำนาจบริหาร และการจัดการศึกษาให้คณะกรรมการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ตามกฏ กระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา พ.ศ. 2550 กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศ.
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา. (2545). แนวทางการบริการและการจัดการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานปฏิรูปการศึกษา.
อณัญญา พงษ์ไพรัตน์. (2560). การประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ 4 กับการบริหารงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานธุรการโรงเรียนอนุบาลหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Cronbach, Lee J. (1971). Essentials of psychological testing. 4 th ed. New York: Harper & Row.
Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale in Reading in Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.