A MODEL FOR PROMOTING THE DHAMMA STUDIES LEARNING MANAGEMENT IN ACCORDANCE WITH THE FOUR IDDHIPÃDA FOR SCHOOLS UNDER THE BANGKOK METROPOLITAN ADMINISTRATION
Main Article Content
Abstract
This research article aimed to propose a model for promoting the management of Dhamma studies learning according to the Four Bases of Iddhipda in schools under the Bangkok Metropolitan Administration. The research instruments included questionnaires distributed to 390 teachers in primary schools under the Bangkok Metropolitan Administration, interview forms for 22 key informants, namely school directors, school administrators, educators, and experts, and question guidelines for group discussion with 11 key informants.
The research results found that the model for promoting the learning management of Dhamma studies according to the principles of the Four Bases of Iddhipda in schools under the Bangkok Metropolitan Administration consisted of 6 components: 1) Principles, 2) Objectives, 3) Methods of operation, 4) Operating models, 5) Evaluation and 6) Conditions for success. The results of the model experiment showed opinions on the model experiment before and after the experiment. The overall and each aspect had an increase in the average value. The results of the evaluation of the model in all 4 aspects, including appropriateness, feasibility, usefulness, and correctness, were at the highest level overall and each aspect. The conclusion of the knowledge from the research was the PIS Model.
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารฯ ได้กำหนดความซ้ำของผลงาน ด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 25%
ในกรณีที่ บทความวิจัยมีกระบวนการวิจัยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์จะต้องส่งหลักฐานการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์มาประกอบการลงตีพิมพ์ด้วยจึงจะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสาร
ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ รวมทั้งระบบการอ้างอิงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ โดยรวมทั้งทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์และวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์
References
กมล ภู่ประเสริฐ. (2547). การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ก.พล.
กระทรวงวัฒนธรรม. (2550). การศึกษารูปแบบและแนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนธรรมศึกษาในสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กัญชพร ปานเพ็ชร. (2566). รูปแบบภาวะผู้นำที่แท้จริงตามหลักฆราวาสธรรม สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
กุสุมา ยี่ภู่. (2566). รูปแบบภาวะผู้นำเชิงสร้างสรรค์ตามหลักปัญญา 3 สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
จารุวรรณ ตาลสุกเรือง (2565). รูปแบบการบริหารตามศาสตร์พระราชาเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ชนากร ศาสตร์สกุล, บุญเชิด ชำนิศาสตร์ และพระมหาญาณวัฒน์ ฐิตวฑฺฒโน. (2567). พุทธวิธีการบริหารวิชาการในสถานศึกษา. วารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์, 5(3), 723-732.
ชัยยงค์ พรหมวงค์. (2551). เอกสารประกอบการพัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ดนัย ปรีชาเพิ่มประสิทธิ์. (2549). หลักสูตรการศึกษาพระพุทธศาสนาในโรงเรียนไทย: รุ่งเรืองหรือร่วงโรย. วารสารศิลปะศาสตร์, 6(2), 154-155.
ประภาสี สีหอำไพ. (2553). พื้นฐานการศึกษาทางศาสนาและจริยธรรม. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระครูพิศาลธรรมานุวัตร (สมนึก เตชธมฺโม). (2563). การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนธรรมศึกษาตามหลักอิทธิบาท 4 สำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูโสภณภัทรเวทย์ (อิทธิพล ปธานิโก). (2563). รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการส่งเสริมคุณธรรมของนักเรียนสำหรับโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระปลัดราชันย์ ขวัญเมือง. (2563). พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดทางพระพุทธศาสนาเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย. ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
พระมหาบัญญัติ สุจิตฺโต (รอดตุ้ม). (2563). รูปแบบการบริหารงานบุคคลตามหลักอิทธิบาท 4 สำหรับผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พักตร์วิไล ชำปฏิ. (2566). รูปแบบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมตามหลักปาปณิกธรรม สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พิชญา ดีมี. (2559). การพัฒนาแนวทางการประเมินทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรมของผู้เรียนตามแนวคิดการประเมินผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
เมตตา ภิรมย์ภักดิ์. (2548). แนวทางการดำเนินงานโรงเรียนวิถีพุทธ. กรุงเทพมหานคร: สาระไทย.
สำนักแม่กองธรรมสนามหลวง. (2560). เรื่องสอบธรรมสนามหลวงแผนกธรรม พ.ศ. 2560. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา.
สิริวรรณ ศรีพหล. (2554). การพัฒนาชุดฝึกอบรมทำงไกลสำหรับครูสังคมศึกษาเรื่อง วิชาพระพุทธศาสนาในสถานศึกษา. รายงานวิจัย. มหาวิทยาสุโขทัยธรรมาธิราช.
สุภัสสรา วันทมาตย์ และพระมหาญาณวัฒน์ ฐิตวฑฺฒโน. (2566). SUPAT Model: รูปแบบการเรียนรู้สู่การพัฒนานวัตกรรมผู้เรียนร่วมกับหลักอิทธิบาท 4 ในศตวรรษที่ 21. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 10(2), 519-528.