กลยุทธ์การพัฒนาภาวะผู้นำสตรีของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักพุทธธรรม ในยุคโลกโกลาหลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอกลยุทธ์การพัฒนาภาวะผู้นำสตรีของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักพุทธธรรมในยุคโลกโกลาหลของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี โดยมีระเบียบวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการศึกษาเอกสาร และนำมาสร้างแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง เพื่อนำไปสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 5 คน พัฒนากลยุทธ์โดยการสนทนากลุ่ม มีผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 9 รูป/คน การทดลองใช้กลยุทธ์กับสถานศึกษาในจังหวัดปทุมธานีจำนวน 1 แห่ง และระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มที่ 1 ศึกษาสภาพภาวะผู้นำสตรีของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคโลกโกลาหลของสถานศึกษา คือ ผู้บริหารและครูจำนวน 379 คน กลุ่มที่ 2 ประเมินกลยุทธ์คือผู้บริหารและครู จำนวน 377 คน การแจกแบบสอบถามตามมาตรฐานการประเมิน 4 ด้าน คือ ความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความถูกต้อง มีสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีค่าความต้องการจำเป็น
ผลการวิจัยพบว่า กลยุทธ์การพัฒนาภาวะผู้นำสตรีของผู้บริหารสถานศึกษาตามหลักพุทธธรรมในยุคโลกโกลาหลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ประกอบด้วย 1) วิสัยทัศน์
2) พันธกิจ 3) เป้าประสงค์ 4) กลยุทธ์ย่อย 5 กลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์ส่งเสริมสร้างความเปลี่ยนแปลง กลยุทธ์สร้างแรงบันดาลใจในการจัดการศึกษา กลยุทธ์ส่งเสริมการมีส่วนร่วม กลยุทธ์ส่งเสริมการเคารพต่อผู้อื่น
กลยุทธ์เพิ่มศักยภาพการสร้างสรรค์นวัตกรรม พร้อมด้วยแนวทางการขับเคลื่อนกลยุทธ์สู่การปฏิบัติด้วยหลักสาราณียธรรม 6 โดยมีผลการทดลองใช้กลยุทธ์ พบว่า การประเมินการทดลองใช้มีค่าสูงกว่าก่อนการประเมินการทดลองใช้ และผลการประเมินกลยุทธ์ พบว่า ในภาพรวมมีด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดในระดับมากที่สุด คือ ด้านความเป็นประโยชน์ โดยเรียงลำดับจากด้านมากไปหาน้อย คือ ด้านความถูกต้องอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ส่งมาขอรับการตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ จะต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น รวมทั้งผู้เขียนจะต้องคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง ซึ่งทางวารสารฯ ได้กำหนดความซ้ำของผลงาน ด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ในระดับ ไม่เกิน 25%
ในกรณีที่ บทความวิจัยมีกระบวนการวิจัยเกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์จะต้องส่งหลักฐานการรับรองจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์มาประกอบการลงตีพิมพ์ด้วยจึงจะได้รับการพิจารณาลงตีพิมพ์ในวารสาร
ผู้เขียนบทความจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเสนอบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ รวมทั้งระบบการอ้างอิงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ โดยรวมทั้งทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์และวารสารบวรสหการศึกษาและมนุษยสังคมศาสตร์
References
เกียรติพงษ์ อุดมธนะธีระ. (2565). โลกยุคบานี่ (BANI World). แหล่งที่มา https://www.iok2u.com/article/innovation/bani-world สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2566.
การุณันทน์ รัตนแสนวงษ์. (2555). ภาวะผู้นำของผู้บริหารสตรีมหาวิทยาลัยภาครัฐและภาคเอกชนในเขตกรุงเทพมหานคร.ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ. (2559). ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579). กรุงเทพมหานคร: สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี.
ดวงเดือน จันทร์เจริญ. (2560). หลักการการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). (2527). ลักษณะสังคมพุทธ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง.
ราชกิจจานุเบกษา. (2546). กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546. เล่ม 120 ตอนที่ 63 ก หน้า 17 (7 กรกฎาคม 2546).
วสันต์ สุทธาวาศ และคณะ. (2559). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างศักยภาพความเป็นนวัตกรการศึกษา. Veridian E-Journal ฉบับมนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์และศิลปะ, 9(2), 194-215.
สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ และคณะ. (2556). การจัดทำยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เกิดความรับผิดชอบ. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2564). แผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2564- 2565. กรุงเทพมหานคร: สานักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2564). องค์กรแห่งการเรียนรู้เป็นอย่างไร...รู้ได้อย่างไร. กรุงเทพมหานคร: สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานวิจัยและพัฒนาระบบงานบุคคล. (2560). ระบบราชการไทยในบริบทไทยแลนด์ 4.0. กรุงเทพมหานคร: สำนักงาน ก.พ.
อนิรุทธิ์ ตุลสุข. (2566). ต้องปรับตัวอย่างไร เมื่อเข้าสู่ยุค BANI world. แหล่งที่มา https://www.coachforgoal.com/blog/topic/ต้องปรับตัวอย่างไร-เมื่อเข้าสู่ยุค-bani-world สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2566.
th.hrnote. asia. (2562). การศึกษา (Education) สำคัญอย่างไรกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์. แหล่งที่มา https://th.hrnote.asia/orgdevelopment/190625-education-for-hrd/ สืบค้นเมื่อ 21 มิถุนายน 2565.
Cronbach, Lee J. (1971). Essentials of psychological testing. 4 th ed. New York: Harper & Row.
Eagly, A. H. and Karau, S. J. (2002). Role congruity theory of prejudice toward female leaders. Psychological Review, 109(3), 573-598.
Hochschild, A. R. and Machung, A. (2012). The Second Shift: Working Families and the Revolution at Home. Penguin Books.
International Labour Organization. (2018). Ending Violence and Harassment Against Women and Men in the World of Work. International Labour Conference 107th Session.
Kouzes and Posner. (1997). The Leadership Challenge. San Francisco: Jossey-Bass.
Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Leith wood and Jantzi. (1990). Transformational Leadership: How Principals Can Help Reform Cultures. Paper Presented At the Annual Meeting of The Canadian Association For Curriculum Studies.
Likert, Rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale, in Reading in Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.
McKinsey and Company. (2020). Women in the Workplace is the largest study on the state of women in corporate America. Women in the Workplace 2020.