จารึกมอญโบราณสู่งานสร้างสรรค์ทางดุริยางคศิลป์ ดุริยบำบวง: ย้อนรอยอักษราจารึกเมืองละโว้
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เพื่อศึกษาวิเคราะห์จารึกภาษามอญโบราณที่ปรากฏในเมืองลพบุรีและสืบเนื่อง ผลการวิจัย พบว่า เมืองละโว้หรือเมืองลพบุรีในอดีตปรากฏร่องรอยหลักฐานการอาศัยอยู่ของมนุษย์ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ต่อมาเมื่อได้รับวัฒนธรรมจากภายนอก โดยเฉพาะวัฒนธรรมอินเดียที่เข้ามา ลพบุรีจึงมีการพัฒนาขึ้นมาเป็นรัฐที่มีวัฒนธรรมร่วมแบบทวารวดีในภาคกลางของประเทศไทย เช่น นครปฐม อู่ทอง คูบัว ฯลฯ โดยเฉพาะตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12-14 ปรากฏชื่อในหลักฐานร่วมสมัยว่า ลวปุระ ทั้งนี้ ในบริเวณจังหวัดลพบุรียังปรากฏหลักฐานที่เป็นศิลาจารึกที่ใช้อักษรปัลลวะ ภาษาบาลี ภาษาสันสฤต และภาษามอญโบราณ เช่น จารึกซับจำปา จารึกเสาธรรมจักร ฯลฯ แสดงให้เห็นว่าเป็นชุมชนที่นับถือพระพุทธศาสนาและมีการใช้ภาษามอญเป็นภาษาราชการ โดยจารึกที่เป็นภาษาบาลีและมีเนื้อหาเหมือนกัน คือ จารึกเสาแปดเหลี่ยม 1 (ซับจำปา) และจารึกซับจำปา 4 ซึ่งประกอบด้วย ข้อความจากพระไตรปิฎกที่สำคัญ 4 ข้อ คือ คาถาเยธมฺมา คำพรรณนาถึงพระอริยสัจ 4 และพุทธอุทาน นำมาสู่งานสร้างสรรค์ทางดุริยางคศิลป์ ชุดดุริยบำบวง: ย้อนรอยอักษราจารึกเมืองละโว้ ประกอบด้วยทำนองอัตราจังหวะสองชั้น 4 เพลง ชื่อบทเพลงชุด ปฐมบทเยธมฺมา ประกอบด้วย เพลงเยธมฺมา เพลงญาณ 3 เพลงพุทธอุทาน 1 และเพลงพุทธอุทาน 2 บทเพลง ชุดนี้กำหนดอัตลักษณ์ทำนองเป็นเพลงไทยสำเนียงมอญเป็นหลัก กำหนดใช้บันไดเสียงทางกลางและเพียงออบน ดำเนินทำนองแบบกึ่งบังคับทาง ใช้การประสมวงโบราณคดีตามแนวทางของครูมนตรี ตราโมท เพลงสร้างสรรค์ชุดนี้ เป็นสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้กับจังหวัดลพบุรี ในงานเทศกาลสำคัญประจำปี
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กรมศิลปากร. (2524). จารึกโบราณรุ่นแรกพบที่ลพบุรีและใกล้เคียง. กรุงเทพมหานคร: กรมศิลปากร.
กรมศิลปากร. (2559). จารึกประเทศไทย เล่ม 2. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: กรมศิลปากร.
เดชา สุดสวาท. (27 พฤศจิกายน 2566). งานทำบุญเมืองประจำปี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี. (ปภาอร แก้วสว่าง, ผู้สัมภาษณ์)
นพคุณ สุดประเสริฐ. (9 พฤษภาคม 2567). รูปแบบการขับร้องหรือขับลำนำงานสร้างสรรค์ทางดุริยางคศิลป์. (ปภาอร แก้วสว่าง, ผู้สัมภาษณ์)
พงษ์ศักดิ์ นิลวร. (2553). ร่อยรอยพุทธศาสนาสมัยทวารวดีบริเวณลุ่มแม่น้ำลพบุรี-ป่าสัก ศึกษาจากหลักฐานทางโบราณคดี ประเภทศิลปกรรมและจารึก. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
พิชิต ชัยเสรี. (2557). การประพันธ์เพลงไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิมพ์พรรณ ไพบูลย์หวังเจริญ. (9 พฤษภาคม 2567). ประเภทคำประพันธ์ที่ใช้ในงานสร้างสรรค์ทางดุริยางคศิลป์. (ปภาอร แก้วสว่าง, ผู้สัมภาษณ์)
พิเศษ เจียจันทร์พงษ์. (2561). ทวารวดี เมืองที่ชุมนุมพระธาตุ. วารสารศิลปากร, 61(1), 49-55.
มนตรี ตราโมท. (2538). ดุริยสาส์นของนายมนตรี ตราโมท. กรุงเทพมหานคร: ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน).
มานพ วิสุทธิแพทย์. (2533). ดนตรีไทยวิเคราะห์. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชวนพิมพ์.
วรพจน์ มานะสมปอง. (15 มกราคม 2567). การประพันธ์เพลงชุดสำเนียงภาษา. (ปภาอร แก้วสว่าง, ผู้สัมภาษณ์)
ศักดิ์ชัย สายสิงห์. (2562). ศิลปะทวารวดี วัฒนธรรมทางศาสนายุคแรกเริ่มในดินแดนไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). นนทบุรี: เมืองโบราณ.
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). (2566). ชุดข้อมูลจารึกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์. เรียกใช้เมื่อ 15 ธันวาคม 2566 จาก https://db.sac.or.th/inscriptions/dataset/detail/47.
สิริชัยชาญ ฟักจำรูญ. (2546). ดุริยางคศิลป์ไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สถาบันไทยศึกษาจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
อิโคโมสไทย. (2548). กฎบัตรอิโคโมส ว่าด้วยการสื่อความหมายและการนําเสนอแหล่งมรดกวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: อิโคโมสไทย.
ฮันเตอร์ เอียน วัตสัน. (2556). การศึกษารูปคำภาษามอญโบราณจากจารึกที่พบในประเทศไทย ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 12-17. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจารึกภาษาตะวันออก. มหาวิทยาลัยศิลปากร.