การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และ 2) ศึกษาข้อเสนอแนะ และแนวทางการดูแลสุขภาพ ผู้สูงอายุระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง จำนวน 241 คน และการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 24 คน ผลการวิจัยพบว่า 1) การดูแลสุขภาพ ผู้สูงอายุระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยรวม มีค่าเฉลี่ยแปลผล อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.09),(S.D. = 0.18) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านจิตวิญญาณ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด (
= 3.92),(S.D. = 0.33) รองลงมา ได้แก่ ด้านจิตและอารมณ์ (
= 3.66), (S.D. = 0.41)ด้านสังคม (
= 3.60), (S.D. = 0.38) ด้านองค์กร (
= 3.00), (S.D. = 0.42) ด้านบุคลากร (
= 2.50), (S.D. = 0.29) และด้านร่างกาย มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด (
= 1.81) (S.D. = 0.28) 2) ข้อเสนอแนะและแนวทางการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง 1) ด้านร่างกาย พบว่า ควรดูแลช่องปากและฟัน แผลกดทับ และส่งเสริมการเคลื่อนไหว 2) ด้านจิตและอารมณ์ พบว่า ควรกระตุ้นให้ผู้สูงอายุ มีการผ่อนคลาย สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เดินจงกล ขอขมากรรมหรืออโหสิกรรม 3) ด้านสังคม พบว่า ควรดูแลสุขภาพให้สามารถเข้าถึงสิทธิและการดูแลเกี่ยวกับสุขภาพ 4) ด้านจิตวิญญาณหรือการรู้คิด (ปัญญา) พบว่า ควรเข้าถึงข้อมูลและผสมสานการดูแลแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก 5) ด้านองค์กร พบว่า ควรมีภาคีเครือข่าย อุปกรณ์ เช่น ชุดพ่นยา ออกซิเจน 6) ด้านบุคลากร พบว่า ควรจัดสรร บุคลากร ทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในการดูแล สุขภาพผู้สูงอายุ
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2563). พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์เทพเพ็ญวานิสย์.
กิตติวรรณ จันทร์ฤทธิ์ และคณะ. (2566). “รูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุโดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายชุมชน ตำบลป่าเซ่า อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์”. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น), 14(1), 73-76.
จุฑารัตน์ แสงทอง. (2563). “สังคมผู้สูงอายุ (อย่างสมบูรณ์): ภาวะสูงวัยอย่างมีคุณภาพ”. วารสารกึ่งวิชาการ, 38(1), 114-127.
ทัศนีย์ ทองประทีป. (2563). พยาบาล: ผู้ร่วมทุกข์ผู้ป่วยระยะสุดท้าย. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: บริษัท วี.พริ้นท์ จำกัด.
นภาพร ตั้งพูลผลวนิชย์ และคณะ. (2561). “การพัฒนาระบบการดูแลแบบประคับประคองในผู้ป่วยระยะสุดท้าย โรงพยาบาลยโสธร”. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา, 5(2), 40-43.
ลักษมี ชาญเวชช์. (2562). การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย. กรุงเทพมหานคร: โอเอส พริ้นติ้งเฮาส์.
ลัดดา ดำริการเลิศ. (2562). การดูแลผู้สูงอายุแบบบูรณาการในชุมชน: ช่วงที่ 1 สถานการณ์และความต้องการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน. นครปฐม: สำนักวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล.
ส่งศรี ชมภูวงศ์. (2554). ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). นครศรีธรรมราช: มหาวิทยาลัยมหามกุฎราช.
สมจิต หนูเจริญกุล. (2562). การพยาบาล: ศาสตร์ของการปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล.
สันต์ หัตถีรัตน์. (2562). ตําราซักประวัติและตรวจร่างกาย. กรุงเทพมหานคร: หมอชาวบ้าน.
อรัญญา เชาวลิต. (2562). การพยาบาลผู้ป่วยหัวใจเต้นผิดจังหวะ. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์.
Department of Health. (2023). Self Care - a Real Choice: Self Care Support - a Practical Option. Retrieved October 3 , 2023, from http://www.dh.gov.uk/SelfCare
Dorothy, O. (1985). Nursing: Concept of Practice. (2 rd ed). New York: Mcgraw Hill.
World Health Organization. (2023). WHO Definition of Palliative Care. Retrieved October 21 , 2023, from http://www.who.int/cancer/palliative/definition/en/