การพัฒนาสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์งานวิจัย ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยการใช้เฟสบุ๊ค

Main Article Content

อัษฎา วรรณกายนต์
นิคม ลนขุดทด
สุชาติ ดุมนิล
อภิชัย ไพรสินธุ์

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสื่อ และประเมินความพึงพอใจที่มีต่อ สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์งานวิจัย ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยการใช้เฟสบุ๊ค เป็นการวิจัยแบบ การวิจัยและพัฒนา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ที่สนใจที่เข้ามาเยี่ยมชม และเข้ามามีส่วนร่วม ในเพจเฟสบุ๊ค หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม จำนวน 70 คน ใช้การสุ่มแบบบังเอิญหรือแบบสะดวก เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ สื่อประชาสัมพันธ์งานวิจัย และ แบบประเมินความพึงพอใจออนไลน์ คณะผู้วิจัยได้พัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์งานวิจัย โดยการประยุกต์ใช้หลักการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ของ ADDIE Model จากนั้น สร้างโพสต์โดยการเขียนข้อความ และเพิ่มสื่อในเพจเฟสบุ๊คหลักสูตรฯ ใช้ระยะเวลาในการเผยแพร่เพื่อเก็บข้อมูล 120 วัน โดยกลุ่มตัวอย่างจะเข้าไปรับชม มีส่วนร่วม และประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ได้สื่อประชาสัมพันธ์งานวิจัย ที่ใช้ในการนำเสนอผลงานวิจัยของอาจารย์ประจำหลักสูตร โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ๊ค ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และผู้ที่สนใจได้อย่างกว้างขวาง สามารถเผยแพร่องค์ความรู้ที่ได้รับจากงานวิจัยเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ยังเป็นการสร้าง ความน่าเชื่อถือ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อหลักสูตร ให้เป็นหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับในทางวิชาการ 2) ผู้ตอบแบบประเมิน ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จำนวน 48 คน (ร้อยละ 68.57) อยู่ในช่วงอายุ 15-25 ปี จำนวน 35 คน (ร้อยละ 50) จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 44 คน (ร้อยละ 62.86) และมีนักเรียน/นักศึกษา จำนวน 35 คน (ร้อยละ 50) และความพึงพอใจที่มีต่อสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์งานวิจัย ในภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด (  = 4.81 และ SD.= 0.42)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วรรณกายนต์ . อ. ., ลนขุดทด น. ., ดุมนิล ส. ., & ไพรสินธุ์ อ. . (2022). การพัฒนาสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์งานวิจัย ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยการใช้เฟสบุ๊ค. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 9(12), 60–76. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/265559
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กัลยา วานิชย์บัญชา. (2549). สถิติสำหรับงานวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

คณะอนุกรรมการการจัดการความรู้ ด้านงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยรังสิต. (2564). ชุดประสบการณ์การเรียนรู้ ด้านการเผยแพร่ผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ (ฉบับสมบูรณ์). เรียกใช้เมื่อ 2 พฤษภาคม 2564 จากhttps://lc.rsu.ac.th/km/files /manual/manual2.pdf

ชมพูนุท เมฆเมืองทอง และศิริประภา แสงจิตร. (2561). การพัฒนาสื่อใหม่เพื่อการประชาสัมพันธ์สาขาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร. วารสารวิชาการการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม, 5(2), 200-209.

ณัฐวุฒิ เพชรประไพ. (2564). คู่ภายใต้เฟซบุ๊ก (Facebook) ชื่อเพจ Khon Kaen University ที่อยู่ในการบริหารจัดการของมือการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ื่อสังคมออนไลน์ด้วยการใช้เฟสบุ๊ก (Facebook)กองสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

นิคม ลนขุนทด และคณะ. (2563). การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีคิวอาร์โค้ด สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน ประเภทผักอินทรีย์. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.

เมศิยาห์ อ่อนตา. (2562). คู่มือการปฏิบัติงานกระบวนการประชาสัมพันธ์. กำแพงเพชร: มหาวิทยราชภัฏกำแพงเพชร.

สาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม. (2562). มคอ. 2 หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม หลักสูตรปรับปรุง พุทธศักราช 2562. สุรินทร์: คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.

สุภัค ถาวรนิติกุล. (2557). การศึกษาแนวทางเพื่อพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ของคณะเกษตร กำแพงแสนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, 7(2), 1137-1148.

อภิชัจ พุกสวัสดิ์ และกุลทิพย์ ศาสตระรุจิ. (2556). การประชาสัมพันธ์ภายใต้กระแสสื่อสังคมออนไลน์. วารสารการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา, 6(2), 24-38.

อิทธิพล จันทร์รัตนกุล และคณะ. (2564). บทบาทของหน่วยงานภาครัฐต่อการใช้สื่อสังคมออนไลน์. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 8(1), 222-234.

McGriff, S. J. (2000). Instructional System Design (ISD) : Using the ADDIEModel. Instructional Design Models, 226(14), 1-2.