ผลการใช้สื่อวิดีโอกราฟิกเสมือนแบบปฏิสัมพันธ์ผสานงานภาคสนามเพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการศึกษา

Main Article Content

สิโรดม มณีแฮด
จักรี มณีแฮด

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาคุณภาพสื่อวิดีโอกราฟิกเสมือนแบบปฏิสัมพันธ์ผสานงานภาคสนามเพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการศึกษา 2) วัดความรู้ความเข้าใจในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสื่อสารการกีฬาของผู้รับชมสื่อ และ 3) ศึกษาความคิดเห็นของผู้รับชมสื่อ โดยมีประชากรและกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 40 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบวัดคุณสมบัตินักนิเทศศาสตร์เบื้องต้น 2) สื่อวิดีโอกราฟิกเสมือนแบบปฏิสัมพันธ์ผสานงานภาคสนามเพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการศึกษา 3) แบบประเมินคุณภาพข้อมูลเนื้อหาและเทคนิคการนำเสนอสื่อ 4) แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจ และ 5) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าทดสอบที ผลการวิจัยพบว่า 1) สื่อวิดีโอกราฟิกเสมือนแบบปฏิสัมพันธ์ผสานงานภาคสนามเพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการศึกษา มีคุณภาพอยู่ในระดับดีที่สุด (มีค่าเฉลี่ย = 4.209, มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.62) โดยมีคุณภาพด้านข้อมูลเนื้อหาของสื่ออยู่ในระดับดี (มีค่าเฉลี่ย = 4.066, มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.47) และมีคุณภาพด้านเทคนิคการนำเสนอสื่ออยู่ในระดับดีที่สุด (มีค่าเฉลี่ย = 4.307, มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.69) 2) นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจหลังรับชมสื่อเพิ่มขึ้นจากก่อนรับชมสื่อวิดีโอกราฟิกเสมือนแบบปฏิสัมพันธ์ผสานงานภาคสนามเพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (มีค่าทดสอบที = - 21.02) และ 3) นักเรียนมีความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมความพึงพอใจต่อสื่อวิดีโอกราฟิกเสมือนแบบปฏิสัมพันธ์ผสานงานภาคสนามเพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด              (มีค่าเฉลี่ย = 4.381, มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.45)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
มณีแฮด ส. ., & มณีแฮด จ. . (2021). ผลการใช้สื่อวิดีโอกราฟิกเสมือนแบบปฏิสัมพันธ์ผสานงานภาคสนามเพื่อการประชาสัมพันธ์ทางการศึกษา. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(1), 1–19. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/JMND/article/view/249608
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เชาวนี แก้วมโน และคณะ. (2559). องค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาเอกชนเขตภาคใต้. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 11(2), 15-30.

กุลธิดา สายพรหม. (2559). การสร้างสรรค์ข่าวพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์ไทย. วารสารรามคำแหง ฉบับมนุษยศาสตร์, 35(1), 125-142.

กุลธิดา สายพรหม. (2560). การเปิดรับและรูปแบบการนำเสนอข่าวพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมในทัศนะของผู้ชม. วารสารรามคำแหง ฉบับมนุษยศาสตร์, 36(1), 87-110.

ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา. (2555). วิวัฒนาการนโยบายทางประชากร. ใน ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา (บรรณาธิการ), สุขภาพคนไทย 2555 (หน้า 30-31). นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.

ดลพร ศรีฟ้า. (2561). การใช้ความจริงเสมือนในพิพิธภัณฑ์ กรณีศึกษาพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติฟินแลนด์. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal มหาวิทยาลัยศิลปากร, 11(2), 2028-2039.

ธเนศ อินเมฆ และต้องตา สมใจเพ็ง. (2560). แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการใช้สื่อประสม เรื่อง การบวกและการลบจำนวนเต็ม. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 32(2), 121-128.

นงลักษณ์ งามขำ. (2561). การตัดสินใจเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเอกชนสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6. วารสารวิชาการสถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ, 4(พิเศษ), 115-127.

ปราโมทย์ ประสาทกุล และปัทมา ว่าพัฒนวงศ์. (2555). การเกิด. ใน ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา (บรรณาธิการ), สุขภาพคนไทย 2555 (หน้า 12-13). นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.

รุ่งทิพย์ มีสำลี และคณะ. (2557). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนศิลปะโดยใช้สื่อประสมสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 8(2), 109-122.

วฐา มินเสน. (2557). การเลือกใช้ตัวอักษรเพื่อเพิ่มการคลิกการโฆษณาออนไลน์จากกูเกิลแอดเวิร์ด. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 22(4), 482-494.

วรินธร รัชโพธิ์. (2560). สาเหตุการออกกลางคันของนิสิตวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วารสารการเมืองการปกครอง, 7(2), 335-346.

วิลาวัณย์ พินสุวรรณ และคณะ. (2557). การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสื่อประสมกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 7(1), 9-16.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2561). จำนวนนักเรียน นิสิต นักศึกษาในสถานศึกษาของรัฐบาลและเอกชน จำแนกตามชั้นและระดับการศึกษา. เรียกใช้เมื่อ 12 เมษายน 2563 จาก http://www.nso.go.th

สิโรดม มณีแฮด และปณิตา วรรณพิรุณ. (2562). ระบบนิเวศการเรียนรู้ดิจิทัลด้วยปัญญาประดิษฐ์สำหรับการเรียนรู้อย่างชาญฉลาด. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 21(2), 359-373.

สุภัค ถาวรนิติกุล. (2557). การศึกษาแนวทางเพื่อพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ของคณะเกษตรกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal มหาวิทยาลัยศิลปากร, 7(2), 1137-1148.

Aldoobie, N. (2015). ADDIE Model. American International Journal of Contemporary Research, 5(6), 68-72.

Alfaro, L. et al. (2019). Immersive Technologies in Marketing: State of the Art and a Software Architecture Proposal. International Journal of Advanced Computer Science and Applications, 10(10), 482-490.

Srikong, M. & Wannapiroon, P. (2020). Immersive Technology for Medical Education: Technology Enhance Immersive Learning Experiences. Siriraj Medical Journal, 72(3), 265-271.