การวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย และเพื่อวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย เป็นการวิจัยเชิงปริมาณเพื่อทำการศึกษาวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้จำนวน 260 ตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถาม ได้ทำการตรวจสอบค่าความเที่ยงตรงและค่าความเชื่อมั่นด้วยค่าสัมประสิทธิ์ Cronbach’s Alpha มีค่า α มากกว่า 0.7 ซึ่งหมายความว่า ข้อคำถามมีความเชื่อมั่น สถิติพรรณนาที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีทุนจดทะเบียนมากกว่า 5 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ประกอบกิจการมากกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี และมีจำนวนพนักงานน้อยกว่าหรือเทียบเท่า 50 คน และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ส่วนใหญ่เท่ากับ 0.21 – 0.40 ขณะที่อัตราส่วนการทำกำไร (Net Profit Margin) ส่วนใหญ่เท่ากับ 6% – 10% และอัตราการใช้ประโยชน์จากความสามารถของกำลังการผลิต (Capacity Utilization) ส่วนใหญ่เท่ากับ 68% – 75% ทำให้ทราบถึงความสามารถในการใช้สินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ ผลการดำเนินงานทางการเงินสามารถวัดได้จากรายได้จากการดำเนินงานรายได้ หรือกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน หรือยอดขายรวม นักวิเคราะห์หรือนักลงทุนอาจต้องการมองลึกเข้าไปในด้านการเงิน ซึ่งนักวิเคราะห์และนักลงทุนอาจมองลึกลงไปถึงงบการเงินและอัตราการเติบโตเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศไทย เพื่อใช้ในการตัดสินใจ และกำหนดนโยบายการบริหารงานของวิสาหกิจ เพื่อสามารถได้เปรียบคู่แข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม. (2560). สถานการณ์ของผู้ประกอบการ SMEs ปี 2560. เรียกใช้เมื่อ 12 ตุลาคม 2560 จาก https://mgronline.com/smes/ detail/9600000080756
Dimi, O. (2015). Possibilities Of Organizing The Romanian Management Accounting For A Company Which Applies Lean Accounting. (Edition 6). Annals - Economy Series, Romania: University of Târgu Jiu.
Farah Naz et al. (2016). Financial Performance of Firms: Evidence from Pakistan Cement Industry. Journal of Teaching and Education, 5(1), 81-94.
Junarsin, E. (2011). Executive Compensation and Firm Performance: An Empirical Examination. European Journal of Economics, Finance and Administrative Sciences, 1(28), 163-179.
Kaplan, R. S. & Norton, D. P. (1992). The Balanced Scorecard - Measures that Drive Performanceé. Harvard Business Review, 70(1), 71-89.
Khrawish, H. A. (2011). Determinants of commercial banks performance: evidence from Jordan. International Research Journal of Finance and Economics, 81(1), 148-159.
Kwon, O. & Wen, Y. (2010). An empirical study of the factors affecting social network service use. Computers in human behavior, 26(2), 254-263.
MacKay, P. & Phillips, G. M. (2005). How Does Industry Affect Firm Financial Structure? Review of Financial Studies, 18(4), 1433-1466.
Okun, A. (2019). Patent Application Filing Frequency and Jurisdictional Range in The Pharmaceutical Industry. In A Dissertation Presented in Partial Fulfillment of the Requirements for the Degree Doctor of Business Administration. Capella University.
Sequin, B. & Sweetland, J. (2014). Drivers of Canadian Food Processing Competitiveness Macro Factors and Micro Decisions. Canada: George Morris Centre.
Tao, R. & Zhao, H. (2019). Passing the Baton: The effects of CEO succession planning on firm performance and volatility. Corporate Governance: An International Review, 27(1), 61-78.