การสื่อสารในครอบครัวกับการแก้ปัญหาทางเพศวัยรุ่นมุสลิม
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิชาการฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เห็นความสำคัญของการสื่อสารในครอบครัว เป้าหมายเป็นวัยรุ่นมุสลิมซึ่งถือว่าเป็นประชากรกลุ่มหนึ่งที่มีความสำคัญของประเทศชาติ และต้องแก้ปัญหาไปด้วยกัน ซึ่งมองว่ามุสลิมเป็นสังคมที่มีวัฒนธรรมที่ต่างจากสังคมไทยพุทธ มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ดั้งเดิม มุสลิมบางกลุ่มยังมีทัศนคติที่ปิดกั้นเรื่องเพศ มองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องผิดต่อศาสนา โดยพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังไม่เปิดใจให้ลูกเรียนรู้เรื่องเพศ ดังนั้นเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาทางเพศวัยรุ่นมุสลิม การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพของพ่อแม่กับลูกวัยรุ่นจึงมีความสำคัญยิ่ง พ่อแม่ผู้ปกครองคือช่องทางสำคัญในการช่วยส่งเสริมสนับสนุนการแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับวัยรุ่น ปัญหาของวัยรุ่นที่พ่อแม่เป็นห่วงและหนักใจมากที่สุด คือปัญหายาเสพติด รองลงมาคือปัญหาเกี่ยวกับเพศศึกษาของวัยรุ่น แนวทางแก้ไขปัญหาต้องเริ่มจากการสร้างความรัก ความอบอุ่นและความเข้าใจในครอบครัว ดูแลเรื่องการคบเพื่อนของวัยรุ่น ความร่วมมือจากโรงเรียน ชุมชน และสังคมในการแก้ปัญหา วิธีการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษาของพ่อแม่ ได้แก่ การดูรายการเพศศึกษาทางโทรทัศน์ ปรึกษากับพ่อแม่ที่มีลูกวัยรุ่นเหมือนกัน ถามจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ และหาหนังสือเกี่ยวกับเพศศึกษามาอ่าน แนวทางในการสอนเพศศึกษาที่เหมมาะสมกับวัยรุ่น คือ การสอนโดยพ่อแม่ สอนโดยญาติคนใกล้ชิด หรือครูอาจารย์ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เนื้อหาสาระที่ควรจะสอนคือ เนื้อสาระเกี่ยวกับเพศศึกษาโดยทั่วไป ที่มีความต่อเนื่องและครอบคลุมสตั้งแต่เล็กจนโต
Article Details
เอกสารอ้างอิง
มุหัมมัด อิบนุญะมีล ไซนู. (2557). วิธีเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี. แปลโดย มุหัมมัด เหมอนุกูล. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพมหานคร: นัทชาพริ้นติ้ง.
ยูซุฟ อัลเกาะเราะฎอวีย์. (2557). นักดาอีย์กับบางส่วนที่เลือนหาย. แปลโดย มุดัรฺริส อบูบักรู. กรุงเทพมหานคร: นัตวิดาการพิมพ์.
วิศนีย์ บุญมั่น. (2550). ผลของโปรแกรมการมีส่วนร่วมต่อการสื่อสารเรื่องเพศระหว่างบิดาและบุตรชายวัยรุ่น. ใน วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพยาบาลสาธารณสุข. มหาวิทยาลัยมหิดล.
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ. (2559). เสรีภาพในการถือศาสนา เสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ และการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม กรณีการห้ามสตรีที่นับถือศาสนาอิสลามสวมฮิญาบ. กรุงเทพมหานคร: ปกเกล้า.
สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2557). รายงานการศึกษาวิจัยเรื่องการสื่อสารเรื่องเพศในครอบครัวไทย. นนทบุรี: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สุรีย์พร กฤษเจริญ และกัญจนี พลอินทร์. (2551). การสอนเรื่องเพศของพ่อแม่และความต้องการเรียนรู้เรื่องเพศของลูก. สงขลานครินทร์เวชสาร, 26(1), 61-70.
อับดุรเราะห์มาน อัชชีหะฮฺ. (2553). คุณลักษณะเฉพาะของศาสนาอิสลาม (3). เรียกใช้เมื่อ 25 มิถุนายน 2563 จาก https://islamhouse.com/th/articles/321594/
อาภาพร เผ่าวัฒนา. (2553). การสั่งสอนอบรมลูกเชิงบวก. เรียกใช้เมื่อ 25 มิถุนายน 2563 จาก https://www.thaihealth.or.th/Content/15802-การอบรมสั่งสอนลูกเชิงบวก.html
Burgess, V. et al. (2005). Improving Comfort about Sex Communication Between Parents and Their Adolescents : Practice-Based Research Within a Teen Sexuailty Group. Brief Treatment and Crisis Intervention, 5(1), 379-390.
Kirby, J. et al. (2010). Sexual Health Among Young People in Scotland. Child and Adolescent Health Research Unit, University of Edinburgh. Retrieved June 25, 2020, from www.cahru.org/content/04-publications/03-briefing-papers-and-factsheets/briefingpaper_18.pdf
Ramos, G. & Bouris, A. (2008). Parent-Adolescent Communication about Sex in Latino Families: A Guide for Practitioners. The National Campaign To Prevent Teen and Unplanned Pregnancy. Retrieved June 25, 2020, from https://www.hennepinhealthcare.org/wp-content/uploads/2018/09/apt-parent-adolescent-comm-sex.pdf
Siddiqui, B. H. (1991). Knowledge: An Islamic Perspective. Pakistan: Islamic Research Institute.
Wilson, E. K. & Grad, J. C. (2010). Parents' Perspectives on Talking to Preteenage Children about Sex. Perspectives on Sexual and Reproductive Health, 42(1), 56-63.