ระบบนิเวศเกษตรและการจัดการทรัพยากรของชุมชน ในพื้นที่รอยต่อชายแดนกาญจนบุรี-ทวาย
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยเชิงคุณภาพและปริมาณนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระบบเกษตรและสภาพพื้นที่เกษตรของชุมชนบ้านพุน้ำร้อนและชุมชนบ้านทิทะ และเพื่อวิเคราะห์แนวทางการพัฒนาการเกษตรของชุมชน
ผลการวิจัย พบว่า
ชุมชนบ้านพุน้ำร้อน มีการทำการเกษตรระบบเกษตรเชิงเดี่ยว ปลูกพืชเศรษฐกิจเพื่อการค้า ต้องพึ่งพาเงินทุน แรงงานและปัจจัยการผลิต และจัดส่งผลผลิตให้โรงงานในจังหวัดกาญจนบุรีและต่างจังหวัด สำหรับชุมชนบ้านทิทะมีระบบเกษตรผสมผสาน ผลผลิตใช้บริโภคในครัวเรือน บางส่วนส่งขายภายในประเทศและส่งไปขายที่ประเทศอินเดีย
ชุมชนบ้านพุน้ำร้อนมีภูเขาล้อมรอบ สภาพดินเป็นกลางกับด่าง ส่วนใหญ่เป็นดินร่วนเหนียวปนทราย มีอินทรียวัตถุปานกลาง มีโพแทสเซียมสูงมาก แต่มีไนโตรเจนค่อนข้างต่ำ และฟอสฟอรัสมีในระดับต่ำ-ปานกลาง มีความหลากหลายของชนิดพืชน้อย แหล่งน้ำทางการเกษตรคือบ่อน้ำขนาดใหญ่ และมีการจัดการระบบเพาะปลูกเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ชุมชนบ้านทิทะมีภูเขาล้อมรอบ สภาพดินเป็นกลาง ดินมีทั้งที่เป็นดินร่วน ดินร่วนเหนียวปนทราย ดินร่วนเหนียว มีอินทรียวัตถุสูง และมีโพแทสเซียม แคลเซียมและแมกนีเซียมสูงมาก ส่วนฟอสฟอรัสมีระดับต่ำถึงสูงมาก ปริมาณไนโตรเจนค่อนข้างต่ำ มีความหลากหลายของชนิดพืชมาก แหล่งน้ำใช้ในครัวเรือนและทางการเกษตรคือแม่น้ำตะนาวศรี ไม่มีการจัดการเกษตร
แนวทางการพัฒนาการเกษตรของชุมชนบ้านพุน้ำร้อนและบ้านทิทะคือ ทั้งสองชุมชนควรเพิ่มไนโตรเจนในดิน และให้ความรู้การทำเกษตรยั่งยืนแก่เกษตรกรและเยาวชน ชุมชนบ้านพุน้ำร้อน ควรมีการปรับการทำการเกษตรเป็นระบบเกษตรที่ดีและเหมาะสม หรือระบบเกษตรผสมผสาน และควรมีการบริหารจัดการน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการ
Article Details
References
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ . (พ.ศ. 2560-2564 ). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12. สำนักนายกรัฐมนตรี.
Cruz: CRC Press. (2007). Gliessman, S. R. Agroecology. Santa: University of California.
Sullivan ATTRA. (P.2003). Applying the Principles of Sustainable Farming. California:.