การศึกษาความหวาดกลัวอาชญากรรมไซเบอร์ของบุคลากรของรัฐในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

บทคัดย่อ

สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้รูปแบบและสถิติการเกิดอาชญากรรมเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์ปกติ โดยพบว่ามีประชาชนตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมรูปแบบใหม่ๆ เป็นจำนวนมาก การวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความหวาดกลัวอาชญากรรมไซเบอร์และศึกษาปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับระดับความหวาดกลัวอาชญากรรมของบุคลากรของรัฐในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างบุคลากรของรัฐจำนวน 401 คน โดยใช้ขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตาราง Determining sample size from a give population และใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา หาค่าร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาน t-test, F-test ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีระดับความหวาดกลัวอาชญากรรมในช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด 19 ภาพรวมอยู่ในระดับน้อย ส่วนระดับพฤติกรรมการแสดงออกถึงการป้องกันอาชญากรรมภาพรวมอยู่ระดับมาก และเมื่อเปรียบเทียบระดับความหวาดกลัวตามปัจจัยส่วนบุคคลกลุ่มตัวอย่างที่ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ลักษณะทางสุขภาพ หน่วยงานในสังกัด รายได้เฉลี่ยต่อเดือน แนวทางการจัดการกรณีตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมที่แตกต่างกันส่งผลต่อระดับความหวาดกลัวอาชญากรรมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ต่างกัน ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมและความปลอดภัยในการใช้ชีวิตเพื่อลดความรู้สึกหวาดกลัวอาชญากรรมรวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อภาครัฐในด้านความปลอดภัยในการใช้ชีวิต