แนวทางการเขียนบทความวิจัย และบทความวิชาการ
แนวทางการเขียนบทความวิจัยสำหรับการตีพิมพ์ในวารสารบริหารศาสตร์
- บทคัดย่อ (Abstract)
บทคัดย่อเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้บรรณาธิการและผู้อ่านสามารถตัดสินใจว่าบทความมีความน่าสนใจและมีคุณค่าต่อการอ่านหรือไม่ จึงควรสรุปสาระสำคัญของงานวิจัยอย่างกระชับและชัดเจน โดยประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญดังต่อไปนี้:
- ปัญหาการวิจัย: ระบุประเด็นหลักของการศึกษา รวมถึงเหตุผลที่ทำให้ปัญหานี้มีความสำคัญ
- วิธีการวิจัย: ระบุแนวทางที่ใช้ในการศึกษา เช่น การวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพ หรือการวิจัยเชิงทดลอง
- ผลการวิจัย: นำเสนอผลลัพธ์หลักของการศึกษาอย่างสรุป โดยไม่ต้องให้รายละเอียดเชิงสถิติ
- ข้อเสนอแนะ: ระบุข้อค้นพบสำคัญที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
- คำสำคัญ (Keywords): เลือกคำสำคัญ 4-6 คำที่สะท้อนเนื้อหาของบทความเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผ่านฐานข้อมูลวิชาการ
- บทนำ (Introduction)
บทนำควรสร้างความสนใจให้ผู้อ่านและให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับบริบทของการวิจัย ประกอบด้วย:
- ความสำคัญของปัญหา: อธิบายสถานการณ์หรือปัญหาที่นำไปสู่การศึกษาและเหตุผลที่ต้องทำการวิจัย
- คำถามวิจัย (Research Questions): ระบุประเด็นสำคัญที่การศึกษามุ่งตอบ
- ช่องว่างของงานวิจัยเดิม (Research Gap): แสดงให้เห็นว่างานวิจัยนี้เติมเต็มข้อบกพร่องหรือช่องว่างขององค์ความรู้เดิม
- ข้อมูลสนับสนุน: ใช้ข้อมูลสถิติและแหล่งอ้างอิงที่ทันสมัยเพื่อเน้นความสำคัญของประเด็นที่ศึกษา
- การทบทวนวรรณกรรม (Literature Review)
การทบทวนวรรณกรรมช่วยให้เห็นบริบททางทฤษฎีและแนวทางการศึกษาก่อนหน้านี้ โดยควรมีองค์ประกอบดังนี้:
- ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง: นำเสนอแนวคิดหรือกรอบทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
- การสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: วิเคราะห์และเชื่อมโยงประเด็นจากงานวิจัยที่มีอยู่กับการศึกษาของตนเอง โดยงานวิจัยที่เกี่ยวข้องไม่ควรเก่าเกิน 5 ปี และควรเป็นงานวิจัยของประเทศไทยและต่างประเทศ (ไม่ควรนำงานวิจัยที่ทำมาแล้วมาเรียงต่อกันโดยไม่มีการสังเคราะห์)
- การเชื่อมโยงไปยังงานวิจัยของตนเอง: อธิบายว่าการศึกษานี้พัฒนาหรือเสริมองค์ความรู้อย่างไร
- วิธีการวิจัย (Research Methodology)
การอธิบายวิธีการวิจัยควรมีความละเอียดรอบคอบและสามารถทำซ้ำได้ ประกอบด้วย:
- การออกแบบการวิจัย: ระบุว่าเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ เชิงทดลอง หรือเชิงปริมาณ/คุณภาพ
- ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง: อธิบายกระบวนการเลือกกลุ่มตัวอย่างและขนาดของกลุ่มตัวอย่าง
- เครื่องมือวิจัย: อธิบายเครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลและการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเครื่องมือ
- การวิเคราะห์ข้อมูล: ระบุเทคนิคการวิเคราะห์ เช่น การใช้สถิติ การวิเคราะห์เนื้อหา
- ข้อจำกัดของวิธีการวิจัย: ระบุข้อจำกัดที่อาจมีผลต่อความแม่นยำของผลลัพธ์
- ผลการวิจัย (Results)
การนำเสนอผลการวิจัยควรเป็นระบบและเข้าใจง่าย โดยประกอบด้วย:
- ผลลัพธ์ที่สำคัญ: นำเสนอข้อมูลในรูปแบบตาราง แผนภูมิ หรือกราฟที่เหมาะสม
- การตีความเบื้องต้น: อธิบายว่าผลลัพธ์สนับสนุนหรือขัดแย้งกับคำถามวิจัยอย่างไร
- ความเป็นกลาง: หลีกเลี่ยงการแปลความหมายเชิงนโยบายหรืออคติในส่วนนี้
- การอภิปรายผล (Discussion)
การอภิปรายผลควรแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจเชิงลึกของผู้วิจัย ประกอบด้วย:
- การเปรียบเทียบกับงานวิจัยก่อนหน้า: แสดงให้เห็นว่างานวิจัยนี้สอดคล้องหรือขัดแย้งกับงานก่อนหน้าอย่างไร
- ข้อค้นพบที่สำคัญ: อธิบายว่างานวิจัยนี้มีส่วนช่วยพัฒนาองค์ความรู้หรือแนวทางปฏิบัติอย่างไร
- ข้อจำกัดของงานวิจัย: ระบุปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของผลการศึกษา
- บทสรุป (Conclusion)
บทสรุปควรสรุปสาระสำคัญของงานวิจัยโดยไม่เพิ่มข้อมูลใหม่ ประกอบด้วย:
- สรุปผลลัพธ์หลัก: อธิบายว่างานวิจัยตอบคำถามวิจัยอย่างไร
- ความสำคัญของการศึกษา: เน้นให้เห็นถึงคุณค่าของงานวิจัย
- ข้อเสนอแนะ (Suggestions)
ข้อเสนอแนะควรมีความเฉพาะเจาะจงและสามารถนำไปปฏิบัติได้ ประกอบด้วย:
- แนวทางการประยุกต์ใช้: อธิบายว่าผลการศึกษาสามารถนำไปใช้ในทางปฏิบัติอย่างไร
- ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคต: ระบุประเด็นที่ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติม
แนวทางการเขียนบทความวิชาการสำหรับการตีพิมพ์ในวารสารบริหารศาสตร์
เพื่อให้บทความมีมาตรฐานที่สูง ควรพิจารณาตามเกณฑ์ต่อไปนี้:
1. ความชัดเจนของวัตถุประสงค์
2. ความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา
3. การใช้แหล่งข้อมูลและการอ้างอิงที่เหมาะสม
4. โครงสร้างและความเป็นระบบของเนื้อหา
5. การให้เหตุผลและการวิเคราะห์ที่ชัดเจน
6. ความเป็นต้นฉบับและคุณค่าทางวิชาการ
7. คุณภาพของการเขียนและการใช้ภาษา
8. การเชื่อมโยงกับองค์ความรู้ที่มีอยู่
9. การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสม
10. ความเป็นกลางและจรรยาบรรณทางวิชาการ