แนวทางการเขียนบทความวิจัยสำหรับการตีพิมพ์ในวารสารบริหารศาสตร์

 

  1. บทคัดย่อ (Abstract)

          บทคัดย่อเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้บรรณาธิการและผู้อ่านสามารถตัดสินใจว่าบทความมีความน่าสนใจและมีคุณค่าต่อการอ่านหรือไม่ จึงควรสรุปสาระสำคัญของงานวิจัยอย่างกระชับและชัดเจน โดยประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญดังต่อไปนี้:

  • ปัญหาการวิจัย: ระบุประเด็นหลักของการศึกษา รวมถึงเหตุผลที่ทำให้ปัญหานี้มีความสำคัญ
  • วิธีการวิจัย: ระบุแนวทางที่ใช้ในการศึกษา เช่น การวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพ หรือการวิจัยเชิงทดลอง
  • ผลการวิจัย: นำเสนอผลลัพธ์หลักของการศึกษาอย่างสรุป โดยไม่ต้องให้รายละเอียดเชิงสถิติ
  • ข้อเสนอแนะ: ระบุข้อค้นพบสำคัญที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
  • คำสำคัญ (Keywords): เลือกคำสำคัญ 4-6 คำที่สะท้อนเนื้อหาของบทความเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผ่านฐานข้อมูลวิชาการ
  1. บทนำ (Introduction)

          บทนำควรสร้างความสนใจให้ผู้อ่านและให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับบริบทของการวิจัย ประกอบด้วย:

  • ความสำคัญของปัญหา: อธิบายสถานการณ์หรือปัญหาที่นำไปสู่การศึกษาและเหตุผลที่ต้องทำการวิจัย
  • คำถามวิจัย (Research Questions): ระบุประเด็นสำคัญที่การศึกษามุ่งตอบ
  • ช่องว่างของงานวิจัยเดิม (Research Gap): แสดงให้เห็นว่างานวิจัยนี้เติมเต็มข้อบกพร่องหรือช่องว่างขององค์ความรู้เดิม
  • ข้อมูลสนับสนุน: ใช้ข้อมูลสถิติและแหล่งอ้างอิงที่ทันสมัยเพื่อเน้นความสำคัญของประเด็นที่ศึกษา
  1. การทบทวนวรรณกรรม (Literature Review)

          การทบทวนวรรณกรรมช่วยให้เห็นบริบททางทฤษฎีและแนวทางการศึกษาก่อนหน้านี้ โดยควรมีองค์ประกอบดังนี้:

  • ทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง: นำเสนอแนวคิดหรือกรอบทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
  • การสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง: วิเคราะห์และเชื่อมโยงประเด็นจากงานวิจัยที่มีอยู่กับการศึกษาของตนเอง โดยงานวิจัยที่เกี่ยวข้องไม่ควรเก่าเกิน 5 ปี และควรเป็นงานวิจัยของประเทศไทยและต่างประเทศ (ไม่ควรนำงานวิจัยที่ทำมาแล้วมาเรียงต่อกันโดยไม่มีการสังเคราะห์)
  • การเชื่อมโยงไปยังงานวิจัยของตนเอง: อธิบายว่าการศึกษานี้พัฒนาหรือเสริมองค์ความรู้อย่างไร
  1. วิธีการวิจัย (Research Methodology)

          การอธิบายวิธีการวิจัยควรมีความละเอียดรอบคอบและสามารถทำซ้ำได้ ประกอบด้วย:

  • การออกแบบการวิจัย: ระบุว่าเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ เชิงทดลอง หรือเชิงปริมาณ/คุณภาพ
  • ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง: อธิบายกระบวนการเลือกกลุ่มตัวอย่างและขนาดของกลุ่มตัวอย่าง
  • เครื่องมือวิจัย: อธิบายเครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลและการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเครื่องมือ
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: ระบุเทคนิคการวิเคราะห์ เช่น การใช้สถิติ การวิเคราะห์เนื้อหา
  • ข้อจำกัดของวิธีการวิจัย: ระบุข้อจำกัดที่อาจมีผลต่อความแม่นยำของผลลัพธ์
  1. ผลการวิจัย (Results)

          การนำเสนอผลการวิจัยควรเป็นระบบและเข้าใจง่าย โดยประกอบด้วย:

  • ผลลัพธ์ที่สำคัญ: นำเสนอข้อมูลในรูปแบบตาราง แผนภูมิ หรือกราฟที่เหมาะสม
  • การตีความเบื้องต้น: อธิบายว่าผลลัพธ์สนับสนุนหรือขัดแย้งกับคำถามวิจัยอย่างไร
  • ความเป็นกลาง: หลีกเลี่ยงการแปลความหมายเชิงนโยบายหรืออคติในส่วนนี้
  1. การอภิปรายผล (Discussion)

          การอภิปรายผลควรแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจเชิงลึกของผู้วิจัย ประกอบด้วย:

  • การเปรียบเทียบกับงานวิจัยก่อนหน้า: แสดงให้เห็นว่างานวิจัยนี้สอดคล้องหรือขัดแย้งกับงานก่อนหน้าอย่างไร
  • ข้อค้นพบที่สำคัญ: อธิบายว่างานวิจัยนี้มีส่วนช่วยพัฒนาองค์ความรู้หรือแนวทางปฏิบัติอย่างไร
  • ข้อจำกัดของงานวิจัย: ระบุปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของผลการศึกษา
  1. บทสรุป (Conclusion)

          บทสรุปควรสรุปสาระสำคัญของงานวิจัยโดยไม่เพิ่มข้อมูลใหม่ ประกอบด้วย:

  • สรุปผลลัพธ์หลัก: อธิบายว่างานวิจัยตอบคำถามวิจัยอย่างไร
  • ความสำคัญของการศึกษา: เน้นให้เห็นถึงคุณค่าของงานวิจัย
  1. ข้อเสนอแนะ (Suggestions)

    ข้อเสนอแนะควรมีความเฉพาะเจาะจงและสามารถนำไปปฏิบัติได้ ประกอบด้วย:

  • แนวทางการประยุกต์ใช้: อธิบายว่าผลการศึกษาสามารถนำไปใช้ในทางปฏิบัติอย่างไร
  • ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคต: ระบุประเด็นที่ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติม

 

แนวทางการเขียนบทความวิชาการสำหรับการตีพิมพ์ในวารสารบริหารศาสตร์ 

เพื่อให้บทความมีมาตรฐานที่สูง ควรพิจารณาตามเกณฑ์ต่อไปนี้:    

        1. ความชัดเจนของวัตถุประสงค์
        2. ความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา
        3. การใช้แหล่งข้อมูลและการอ้างอิงที่เหมาะสม
        4. โครงสร้างและความเป็นระบบของเนื้อหา
        5. การให้เหตุผลและการวิเคราะห์ที่ชัดเจน
        6. ความเป็นต้นฉบับและคุณค่าทางวิชาการ
        7. คุณภาพของการเขียนและการใช้ภาษา
        8. การเชื่อมโยงกับองค์ความรู้ที่มีอยู่
        9. การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เหมาะสม
      10. ความเป็นกลางและจรรยาบรรณทางวิชาการ