นครแม่สอด : การพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์
คำสำคัญ:
สังคมพหุวัฒนธรรม; การอยู่ร่วมกัน; สมานฉันท์.บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพทั่วไป และปัญหา อุปสรรค การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสมานฉันท์ เพื่อพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสมานฉันท์ เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน รูปแบบการวิจัยเชิงปริมาณ จำนวน 150 รูป/คน และการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เป็นการสัมมนากลุ่มย่อยจากผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านศาสนา จำนวน 7 รูป/คน และผู้ทรงคุณวุฒิทางวิชาการ จำนวน 9 คน วิเคราะห์ข้อมูลเนื้อหาแล้วเขียนบรรยายเชิงพรรณนา
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพทั่วไปของชุมชนอำเภอแม่สอด เป็นแบบการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทำความเข้าใจและการศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน โดยไม่ขัดกับหลักปฏิบัติทางศาสนา สิ่งที่สำคัญ คือ การช่วยเหลือด้านสังคมเคราะห์ สาธารณะสงเคราะห์ ช่วยเหลือความทุกข์ยากเดือดร้อน เป็นชุมชนที่มีลักษณะความสัมพันธ์ทางสังคมแบบญาติพี่น้อง รักความสงบและช่วยเหลือกัน มีความผูกพันใกล้ชิดกัน ให้อิสระทางความคิดไม่กีดกันทางศาสนา รู้จักแยกแยะระหว่างวิถีการดำเนินชีวิตกับเรื่องศาสนา และมีศูนย์กลางในการดำเนินกิจกรรม คือ วัด และโรงเรียน 2) การพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ เริ่มจากระบบการศึกษาสอดแทรกเทคนิควิธีการสอนกระตุ้นเยาวชนให้เกิดความสนใจและอยากเรียนรู้ สร้างกิจกรรมให้เยาวชนมีส่วนร่วมในชุมชนได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริง อาทิ ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีงานบุญ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเข้มแข็งในการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความต่างกันด้านศาสนาวัฒนธรรมแต่สามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ภายใต้ข้อปฏิบัติศาสนาของตนเอง โดยผู้ใหญ่ ผู้นำทางศาสนาแสดงพฤติกรรมเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เยาวชนเห็นเป็นตัวอย่าง 3) การเสริมสร้างเครือข่ายการอยู่ร่วมในสังคมพหุวัฒนธรรม เป็นรูปแบบการดำเนินงานขององค์กรภาคีเครือข่าย เป็นการดำเนินงานแบบเฉพาะกิจ เป็นการร่วมด้วยช่วยกันระหว่างกลุ่มศาสนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในความแตกต่างของศาสนาและวัฒนธรรม ขับเคลื่อนภายใต้รูปแบบความร่วมมือกันในลักษณะการรวมความสามัคคีเข้าด้วยกันด้วยความสมัครใจ ใช้กิจกรรมวัฒนธรรมประเพณีเป็นตัวเชื่อมโยง
เอกสารอ้างอิง
Brahmagunabhorn (P.A. Payuto). (2012). Importance of Buddhism. No.10 Bangkok: Sahathamika Printing House. Pages 24.
Lampong Klomkul. 2017. Religious cultural pluralism and the ways of coexistence of China and Malays. Bodhi Research Journal. 2(2). Pages 85.
Rujikarn Sanont. (2020). Developing a collaborative network in a multicultural society of young leaders towards a sustainable learning community. Journal of Bangkokthonburi University. 9(2). Pages 7.
Suraiya Wani. (2013). Community coexistence in a multicultural society. Journal of Politics and Governance 4(1). Pages 204-219.
Thitima Promtong. (2022). Cross-Cultural Social Integration of Japanese Elderly LongTermStayin Chiang Mai. 16(47). Pages 355.
Utai parinyasutinun. (2013). Conflict Management for Empowerment of Restorative Justice of Khuan So Community. Journal of Social Research. 36(2). Pages 73.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.