ปัจจัยที่ส่งผลต่อความขัดแย้งจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับความขัดแย้งและการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560  

2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อความขัดแย้งและการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เป็นการวิจัยแบบผลานวิธี คือการเชิงสำรวจ ประชากรได้ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 4,333,157 คน กลุ่มตัวอย่าง ทำการสุ่มตัวอย่างง่าย จำนวน 1,500 คน การเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามวิเคราะห์ด้วย การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติคาโนนิคอล ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ทำการสัมภาษณ์เชิงลึกกับนักวิชาการที่มีประสบการณ์ด้านการเมืองโดยการคัดเลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์และนำเสนอเชิงพรรณา

          ผลการวิจัย พบว่า 1)  ระดับความขัดแย้งการรวมตัวของคู่ขัดแย้งระดับปานกลาง ความคิดเห็นของคู่ขัดแย้งระดับมากนโยบายและเป้าหมายระดับปานกลาง สภาพการณ์ของความขัดแย้งระดับปานกลาง และการต่อสู้ของคู่ขัดแย้งระดับมาก และการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ในการเลือกตั้งสภาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระดับปานกลาง การเลือกตั้งและการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ระดับมาก ที่มานายกรัฐมนตรีระดับมาก ศาลรัฐธรรมนูญ ระดับปานกลาง องค์กรอิสระระดับปานกลาง การปฏิรูปประเทศ ระดับมาก และบทเฉพาะกาลระดับปานกลาง 2) ปัจจัยที่ส่งผลต่อความขัดแย้ง คือ การรวมตัวของคู่ขัดแย้ง ความคิดเห็นของคู่ขัดแย้ง นโยบายและเป้าหมายของคู่ขัดแย้งไม่ส่งผลต่อการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ส่วนสภาพการณ์ของคู่ขัดแย้งและการต่อสู้ของคู่ขัดแย้งส่งผลต่อการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 3) เสนอแนะลดความขัดแย้งและการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ  คือ ต้องเครารพในความคิดแตกต่างระหว่างคู่ขัดแย้งด้วยกัน ทั้งนี้เพราะว่าคณะผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีความประสงค์ให้สนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงในการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ตามระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข