นโยบายการพัฒนาพื้นที่สาธารณะเพื่อประโยชน์ต่อการบริการผู้สูงอายุ ในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร

ผู้แต่ง

  • วัชชีระ ขนานแข็ง มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น

คำสำคัญ:

นโยบายการพัฒนา, การพัฒนาพื้นที่สาธารณะ, การบริการผู้สูงอายุ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1)ศึกษาระดับประสิทธิผลในการพัฒนาพื้นที่สาธารณะเพื่อประโยชน์ต่อการบริการผู้สูงอายุในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 2)ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลในการพัฒนาพื้นที่สาธารณะเพื่อประโยชน์ต่อการบริการผู้สูงอายุในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร และ3)เสนอแนะแนวทางที่เหมาะสมของนโยบายการพัฒนาพื้นที่สาธารณะเพื่อประโยชน์ต่อการบริการผู้สูงอายุในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ องค์กรภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน และองค์กรภาคประชาชน รวมทั้งสิ้นจำนวน 25 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก แล้วนำมาพรรณาหาข้อสรุปอย่างเป็นระบบมีเหตุผลอ้างอิงทฤษฎีดำเนินการจัดระเบียบข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า 1)พื้นที่สาธารณะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเมืองที่ส่งเสริมให้เกิดคุณภาพชีวิตและรองรับความต้องการที่หลากหลาย การปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ผู้สูงอายุใช้พื้นที่ได้อย่างปลอดภัยและมีปฏิสัมพันธ์กันในทางสังคมที่เป็นบทสะท้อนสะท้อนถึงนโยบายการพัฒนาพื้นที่สาธารณะเพื่อประโยชน์ต่อการบริการผู้สูงอายุที่มีประสิทธิผล 2)การพัฒนาพื้นที่สาธารณะต่อการบริการผู้สูงอายุในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร มีข้อค้นพบจากหลายปัจจัยดังนี้ (1)ด้านกายภาพพื้นที่สาธารณะ (2)ด้านขอบเขตการให้บริการ (3)ด้านความสะดวกสบายภายใน (4)ด้านภาพลักษณ์ของพื้นที่ (5)ด้านความรู้สึกต่อสถานที่ (6)ด้านการเป็นพื้นที่ทางสังคม (7)แนวทางการออกแบบพื้นที่ตอบรับกับพฤติกรรมของผู้สูงอายุ และ3)แนวทางการพัฒนาพื้นที่สาธารณะของผู้สูงอายุ โดยจัดทำแผนบูรณาการกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบในการพัฒนาปรับปรุงให้เหมาะสมปลอดภัยต่อการบริการผู้สูงอายุที่มีประสิทธิผลสูงสุด

References

กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2561). สถิติผู้สูงอายุ. สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2564 จาก http://www. dop.go.th/th/know/1.
กิตติยา ศรีเลิศฟา. (2558). ปจจัยที่มีอิทธิพลตอการนํานโยบายผูสูงอายุไปปฏิบัติ. ในปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (การเมือง), มหาวิทยาลัยรามคําแหง.
คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานผู้สูงอายุแห่งชาติ. (2545). แผนผู้สูงอายุแห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545-2564). กรุงเทพฯ: สำนักนายกรัฐมนตรี.
ณัฐธิดา จุมปา และเพ็ญพักตร์ ไชยนุรักษ์. (2561). สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมและ ปลอดภัยเพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตสร้างความเสมอภาคใน สังคม: กรณีศึกษาชุมชนชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงจังหวัดเชียงราย. Veridian E Journal ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์และศิลปะ, 11(3): หน้า 1508-1509.
ดวงกมล ภูนวล พัชรินทร์ สิรสุนทร เสรี พงศ์พิศ และศุภสิทธิ์ พรรณนารุโณทัย. (2557). การพัฒนารูปแบบเมืองผู้สูงอายุอยู่สบาย. Journal of Health Education, 37(126): หน้า 82-101.
ปาริชาติ ชาลีเครือ. (2561). ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 6(4): หน้า 1620-1632.
ปิยะ กล้าประเสริฐ. (2561) . ข้อเสนอเชิงนโยบายในการเตรียมความพร้อมด้านบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานีในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ. Journal of MCU Peace Studies, 6(4): หน้า 1607-1619.
โมรยา วิเศษศรี และคณะ. (2563). ประสิทธิภาพการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 5(9): หน้า 79-94.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2557). สังคมผู้สูงอายุ: นัยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ. สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2564 จาก www.stou.ac.th/stounline/lom/data/.
ศิริสุข นาคะเสนีย. (2561). พฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร.วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 12(1): หน้า 39-48.
ศุภชัย ชัยจันทร์และณรงพน ไล่ประกอบทรัพย์ (2559). แนวคิดสาธารณะของพื้นที่สาธารณะในเมือง. วารสารวิชาการคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 15(2): หน้า 71-83.
สืบพงศ์ สุขสม. (2561). ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองในลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) กับประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน ผลจากการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 จังหวัดเชียงราย. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, 7(1): หน้า 60-65.
สุรีรัตน์ จำปาเงิน. (2559). แนวทางการพัฒนาสวนสาธารณะที่เหมาะสม เพื่อส่งเสริมเมืองที่เป็นมิตรต่อผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร. ในวิทยานิพนธ์สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Akkar, Z.M. (2004). “New-generation public spaces - How ‘inclusive’ are they?”. In the proceedings of Open Space: People Space Conference, Edinburgh, Scotland, 27-29 October 2004. Edinburgh: The Hub.
Brooke, J.L. 1998. “Reason and Passion in the Public Sphere: Habermas and the Cultural Historians”. Journal of Interdisciplinary History, 29(1): 43-67.
Miller, F. A. (1986). Planned Pastoral Care: A Guide for Teachers. London: McGrawHill.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

31-12-2022

ฉบับ

บท

บทความวิจัย