การประเมินการบริหารโรงเรียนขั้นพื้นฐาน ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อีสานใต้

Main Article Content

สมควร โมทะจิตร

บทคัดย่อ

การประเมินนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อประเมินบริบทของโรงเรียนขั้นพื้นฐานตามแนว ชายแดนไทย-กัมพูชา อีสานใต้ (2) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้าของโรงเรียนขั้นพื้นฐานตามแนว ชายแดนไทย-กัมพูชา อีสานใต้ (3) เพื่อประเมินกระบวนการ การบริหารของโรงเรียนขั้นพื้นฐาน ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อีสานใต้ (4) เพื่อประเมินหลักสูตรและการเรียนการสอนของ โรงเรียนขั้นพื้นฐานตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อีสานใต้ (5) เพื่อประเมินผลผลิตของโรงเรียน ขั้นพื้นฐานตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อีสานใต้วิธีการประเมินมี 2 วิธี คือ (1) การประเมินรูปแบบ CIPP ประชากร คือ โรงเรียนที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อีสานใต้ และจัดการศึกษาในระดับช่วงชั้นที่ 1 และช่วงชั้นที่ 2 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน133 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่างจำนวน 40 โรงเรียนที่เลือกแบบสุ่ม เครื่องมือในการประเมินใช้แบบสอบถาม เก็บข้อมูลจาก ผู้บริหารโรงเรียน ครูสายผู้สอน และผู้ปกครองนักเรียน รวมผู้ให้ ข้อมูลทั้งสิ้น 1, 414 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความ เบี่ยงเบนมาตรฐาน (2) การประเมินโดยวิธีเชิงธรรมชาติ จำนวน 2 โรงเรียนที่เลือกแบบเจาะจง เป็นกรณีศึกษา ผ้ปู ระเมินเก็บขอ้ มูลด้วยตนเองจากการสังเกตและสัมภาษณจ์ ากผ้บู ริหารโรงเรียน ครูสายผู้สอน และผู้ปกครองนักเรียน ได้ทำการวิเคราะห์เนื้อหาแล้วสร้างข้อสรุปผลการประเมินพบว่า1. ด้านบริบท ผู้ปกครองส่วนมากยากจน ชุมชนใช้ภาษาถิ่นและภาษาไทยในการ สื่อสาร มีขนบธรรมเนียมประเพณีเฉพาะกลุ่ม มีความเชื่อทางไสยศาสตร์ ในด้านความปลอดภัยของชุมชนมีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินระดับปานกลาง ร้อยละ 56.30 มีแหล่งอบายมุขที่เป็นการพนันอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 38.30 มีผู้ติดยาเสพติด ร้อยละ 34.60 ให้ความเคารพผู้อาวุโส ระดับการศึกษาต่ำ ให้ความสนใจการศึกษาน้อย ไม่ส่งเสริมให้บุตรธิดาได้ศึกษาต่อให้สูงขึ้น แต่มีน้ำใจในการให้ความร่วมมือโรงเรียนเป็นอย่างดี 2. ด้านปัจจัยนำเข้า ผู้บริหารโรงเรียนทุกคนเป็นเพศชาย ส่วนมากจบปริญญาโท งบประมาณในการบริหารได้จากรัฐประมาณ 300, 000 บาทต่อปีได้รับจากแหล่งอื่นๆประมาณ 100, 000 บาทต่อปี ครูสายผู้สอนส่วนมากจบปริญญาตรี สอนไม่ตรงวิชาเอก สื่อการเรียนการ สอนมีไม่เพียงพอและไม่ทันสมัย วัฒนธรรมองค์กรในโรงเรียนตามแนวชายแดน ส่วนใหญ่เป็นวัฒนธรรมแบบครอบครัว ร้อยละ 35 3. ด้านกระบวนการการบริหาร ผู้บริหารส่วนใหญ่ ใช้กระบวนการบริหารแบบมีส่วนร่วม บางโรงเรียนมีการบริหารโดยใช้วงจร เดมิ่ง (PDCA) และใช้การบริหารแบบโรงเรียนเป็นฐาน (SBM) คุณภาพการบริหารงานของผู้อำนวยการโรงเรียนด้านการบริหารทั่วไป ด้านงบประมาณ ด้านวิชาการ มีคุณภาพอยู่ในระดับดี ส่วนด้านบุคคลมีคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง4. ด้านหลักสูตรและการเรียนการสอน หลักสูตรมีความสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นอยู่ในระดับมากร้อยละ 47.50 สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนอยู่ในระดับมากร้อยละ 52.50 โรงเรียนร้อยละ 47.10 มีการพัฒนาหลักสูตรได้เหมาะสม ครูร้อยละ 97.50มีแผนการสอน ครูร้อยละ 81.10 จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ การใช้สื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 54.30 การวัดผลประเมินผลของครูสายผู้สอน ร้อยละ 65.00 ใช้แบบทดสอบเป็นแบบปรนัย ร้อยละ 47.90 ใช้การวัดผลประเมินผลจากผลงานที่ปฏิบัติจริง และครูร้อยละ 100 ได้แจ้งผลการสอบหรือผลการวัดและประเมินต่อผู้เรียน5. ด้านผลผลิต ผลการทดสอบ O-NET และ NT ส่วนใหญ่มีผลการทดสอบเฉลี่ยต่ำกว่าระดับชาติ ผู้บริหารโรงเรียน ร้อยละ 23 ไม่พอใจผลการทดสอบ ครูสายผู้สอน ร้อยละ 47.10ไม่พอใจผลการทดสอบ ผลการประเมินภายนอกของ สมศ.รอบที่ 2 โรงเรียนร้อยละ 75 ผ่านเกณฑ์การประเมิน ผู้บริหาร และครูสายผู้สอนพอใจต่อผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ผู้ปกครองมีความพึงพอใจต่อการบริหารโรงเรียนอยู่ในระดับมาก ผลผลิตที่เป็นผลกระทบ นักเรียนได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นเฉลี่ย 16 คนต่อปี ผู้ปกครองส่วนมากส่งบุตรธิดา จำนวน 2 คนให้ได้ศึกษาต่อในระดับสูง บางครอบครัวแต่มีส่วนน้อยที่ส่งลูก จำนวน 1 คน และ 3 คน ได้เรียนต่อในระดับสูงขึ้น มีสมาชิกในบางครอบครัวติดอบายมุขประเภทการพนัน ร้อยละ 23.10 และติดยาเสพติดร้อยละ 36.30ผลการประเมินดังกล่าวนี้ เมื่อท????ำการประเมินโดยวิธีเชิงธรรมชาติ จาการสังเกตและการสัมภาษณ์ ก็มีผลการประเมินสอดคล้องกับผลการประเมินด้วยรูปแบบ CIPP ทุกประการ

 

ADMINISTRATIVE EVALUATION OF BASIC EDUCATION SCHOOLS OF SOUTHERN ISAAN ALONG THE THAI-CAMBODIA BORDER

The purposes of this evaluation were 1) to evaluate the context of Basic Educational Schools of Southern Isaan along the Thai-Cambodian border, 2) to evaluate the input of Basic Educational Schools of Southern Isaan along the Thai-Cambodian border, 3) to evaluate the administrative procedure of Basic Educational Schools of Southern Isaan along the Thai-Cambodian border, 4) to evaluate the curriculum and teaching of Basic Educational Schools of Southern Isaan along the Thai-Cambodian border, and 5) to evaluate the output of Basic Educational Schools of Southern Isaan along the Thai-Cambodian border. The Evaluation procedure. There were 2 methods of evaluation. (1) CIPP Evaluation.The population consisted of 133 Basic Educational Schools in education level of Grade 1 and Grade 2 of Southern Isaan along the Thai- Cambodian border under the Basic Education Commission.The sample consisted of randomly selected 40 schools. The questionnaires were used for this evaluationtool distributed to administrators, teachers, and parents of student, totally 1, 414 person. The statistics used to analyze the data were frequency, percentage, mean and standard deviation. (2) Naturalistic Evaluation. Two schools were selected as a case study. The researcher collected the data by observing and interviewing from administrators, teachers, and parents of student. The contents were analyzed to make conclusion. The evaluation findings were as follows: 1) In the aspect of “context”, it was shown that most of the parents were poor. The local dialects and Thai language were used in communication. People were very strict to the customs, and believed in the black magic. The community was safe at a moderate level (56.30%) . There were the gambling places at a moderate level (38.30%) . There were drug-addicted people in some community (34.60%) . Most of the people respected in the elderly people. They had low educational background, and were not interested in studying. They did not encourage their children to continue studying in the higher level; however, they were really willing to cooperate with the school. 2) In the aspect of “input”, it was found that all the school administrators were male, and most of them graduated the Master degree. The administrative budget was gotten from the government, in the amount of 300, 000 baht per year, and from the other sources about 100, 000 baht per year. Most of the instructors graduated the Bachelor degree, but they did not teach the subjects that related to their majors. The teaching materials were not enough and up to date. The cultural organization of the schools along the border was the family culture (35%) . 3) In the aspect of “administrative procedure”, it was shown that most of the schools administrators used the participative management. Some school administrators used the Deming Cycle (PDCA) , and school-based management (SBM) . The quality of management of the school administrators, in the aspects of general management, budgeting, and academic were at a high level, whereas, the aspect of personnel was at a moderate level. 4) In the aspect of “curriculum and teaching”, it was revealed that the curriculum was accordant with the requirements of the local at a high level (47.50%) , and it was also accordant with the requirements of the students at a high level (52.50%) . The schools (47.10%) had developed the curriculum rightfully. The teachers (97.50%) had the lesson plans. The teachers (81.10%) used the student-center teaching method. Teachers used the teaching materials at a moderate level (54.30) . The instructors (65%) used the multiple-choices test for the measurement and evaluation, whereas, 47.90 % of instructors used the authentic practices for the measurement and evaluation. All the instructors (100%) had announced the test results, or the evaluation results to the students. 5) In the aspect of “output”, it was shown that most of the students got the O-NET, and NT test scores under the average score. The school administrators (23%) were not satisfied with the test scores. The instructors (47.10%) were not satisfied with the test scores. The schools (75%) passed the second external quality assessment by the Office for National Education Standards and Quality Assessment. The school administrators and instructors were satisfied with the result of quality assessment at a high level, the parents satisfied the school administration at a high level, The students continue studying at a higher level, in the amount of 16 students per year. Most of the parents encouraged two children to continue studying at a higher level, whereas, a few parents encouraged one or three children to continue studying at a higher level. The family members in some families addicted to the gambling (23.10%) , and were drug-addicted (36.30%) . When the researcher used the Naturalistic Evaluation by observing and interviewing, the findings were shown accordantly with the CIPP Evaluation, in all of the aspects.

Article Details

บท
Articles