The Mythical Legends of Thung Ku La Ronghai: Ecological Narrativeand Social and Cultural Negotiation
Main Article Content
Abstract
This research aimed to study role of the mythical Legends of Thung Ku La as the most
effective media for fighting and negotiation in Social and Culture within Thung Kula Ronghai area
with diversity of culture and society of those who lived together in this area.
Mythical legend was the most effective role for space possession and space construction
including resources such as water, forest, soil,halite etc. by using the mythical narrative to manage
the area to suit identity of each community. What a researcher wanted to investigate was that how
the mythical legend appeared in the area of Thung Ku La Rong Hai was managed for fighting and
negotiation for the change of society and culture as well as negotiation with various powers that
entered to the community of Thung Ku La RongHai by using theory of sacred space construction
and social construction as framework to explain.
From the research, It was found that ecological narrative affected the social and cultural
negotiation in Thung Ku La Ronghai in 4 aspects: 1) fighting and negotiation with Buddhism; 2)
fighting and negotiation with capitalism; 3) fighting and negotiation with tourism; 4) fighting and
negotiation with currency of development which indicated the role of mythical narrative affectied
the operation of fighting with power within the community of Thung Ku La Ronghai.
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารทดสอบระบบ ThaiJo2 ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทดสอบระบบ ThaiJo2 ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารทดสอบระบบ ThaiJo2 หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารทดสอบระบบ ThaiJo2 ก่อนเท่านั้น
References
แห่งชาติ พ.ศ. 2504 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ
และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 พร้ อมด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง.
กรุงเทพฯ : สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์.
จันดี โคตรสุวรรณ. (2558). เป็ นผู้ให้สัมภาษณ์, สมปอง มูลมณี เป็ นผู้สัมภาษณ์, ที่บ้านหนองเม็ก
ต าบลจ าปาขันอ าเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อเดือนพฤษภาคม .
จันนิภา ดวงวิไล. (2556). ต านานพระพุทธรูปในชุมชนชายแดนไทย –ลาว : การสื่อความหมายทาง
วัฒนธรรมและบทบาทการสร้ างความสัมพันธ์ทางสังคม.วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต
ภาษาไทย : มหาวิทยาลัมหาสารคาม.
ฉลาดชาย รมิตานนท์. (2527).ผีเจ้านาย.กรุงเทพ : พายับ ออฟเซท พรินท์.
ดวน สมทุม. (2559). เป็ นผู้ให้สัมภาษณ์, สมปอง มูลมณี เป็ นผู้สัมภาษณ์, ที่บ้านเลขที่ 67 หมู่9 บ้าน
คันธนาม ต าบลยางค า อ าเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด.
เดช ภูสองช้นั . (2558). เป็นผูใ้หส้ ัมภาษณ์, สมปอง มูลมณีเป็นผสู้ ัมภาษณ์, ที่บา้นตาหยวก ตา บลทุ่ง
หลวง อ าเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด.
ทวีศิลป์ สืบวัฒนะ. (2549). ท้องถิ่นอีสานกับการท่องเที่ยว. ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะ
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ธัญญา สังขพันธานนท์. (2559).แว่นวรรณคดี ทฤษฎีร่ วมสมัย = Contemporary literary theory.
ปทุมธานี : นาคร.
นรนิติ เศรษฐบุตร และคณะ. (2550).ร่ างรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย : ฉบับลงประชามติ.
กรุงเทพฯ : สภาร่างรัฐธรรมนูญ.
บัว เทพคูบอน. (2558). เป็ นผู้ให้สัมภาษณ์, สมปอง มูลมณี เป็ นผู้สัมภาษณ์, ที่บ้านเลขที่ 31 หมู่4
ต าบลไพรขลา อ าเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์.
ปฐม หงษ์สุวรรณ. (2554). ต านานพระพุทธรูปล้านนาพลังปัญญาทางความเชื่อและความสัมพันธ์กับ
ท้องถิ่น. เชียงใหม่
. :แมก็ ซ์พริ้นติ้ง (สา นกั มรดกลา้นนา).
ประสิทธ์ิคุณุรัตน์. (2537). “ความหลากหลายทางชีวภาพของป่ าบุ่ง ป่ าทาม”. จุลสารดอกติ้วป่ า. ปี ที่7 ฉบับที่ 3 ธ.ค. 2537.
ศรีศกัด์ิวลัลิโภดม. (2533).อีสานแอ่งอารยธรรม.กรุงเทพฯ: มติชน.
สุกญั ญา เบาเนิด. (2546).วัฒนธรรมทุ่งกุลาร้ องไห้. ทุ่งกุลา อาณาจักรเกลือ 2500 ปี จากยุคแรกเริ่ม
ล้าหลัง ถึงยุคมั่งคั่งข้าวหอม. วารสารเมืองโบราณ ปี ที่ 29 ฉบับที่ 2.
อภิศกัด์ิโสมอินทร์. (2538). ทุ่งกุลาพูด. เอกสารอ่านประกอบวชิาโลกทศัน์อีสาน. มหาสารคาม :
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.