ความภักดีในการรับบริการของผู้ประกอบการสปาและนวดแผนไทย เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขันทางธุรกิจ

ผู้แต่ง

  • พงศ์สฎา เฉลิมกลิ่น คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม

คำสำคัญ:

ความภักดีของลูกค้า, ผู้ประกอบการสปาและนวดแผนไทย, ความได้เปรียบทางการแข่งขัน

บทคัดย่อ

บทความวิชาการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอความรู้เกี่ยวกับความภักดีของผู้รับบริการสปาและนวดแผนไทยเพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจบริการสปาและนวดแผนไทย เพื่อสร้างให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจ เพิ่มรายได้ ลดคู่แข่งขันทางธุรกิจ รักษาฐานลูกค้าเดิม รวมถึงเพิ่มลูกค้าใหม่เพื่อความอยู่รอดของกิจการในสถานการณ์ของการแข่งขันที่สูง ซึ่งมีหลักการสร้างความภักดีเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องความภักดี หลักสำคัญเพื่อใช้ศึกษาในการสร้างความภักดีมี 4 ด้าน ได้แก่ 1) ความภักดีเชิงปัญญา (Cognitive Loyalty) มุ่งเน้นความภักดีที่เกี่ยวกับความเชื่อในตราสินค้าที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้คนทั่วไป 2) ความภักดีทางอารมณ์ (Affective Loyalty) มุ่งเน้นความภักดีที่สะท้อนทัศนคติที่ดีหรือความชอบที่เกิดจากความพึงพอใจ 3) ความจงรักภักดีเชิงประสบการณ์ (Conative Loyalty) มุ่งเน้นความภักดีที่ก่อให้เกิดการพัฒนาของพฤติกรรม และ 4) ความภักดีเชิงการกระทำ (Action Loyalty) มุ่งเน้นความภักดีที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนความตั้งใจไปสู่การกระทำพร้อมกับความเต็มใจ การศึกษาความภักดีในแต่ละด้านนั้น ธุรกิจควรทำการศึกษาบริบทและนำมาปรับเพื่อประยุกต์ใช้ให้เกิดความสอดคล้องสมดุลกับวัตถุประสงค์และพันธกิจเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจภายใต้การแข่งขันเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

References

Aaker, D. A. (1991). Managing brand equity: Capitalizing on the value of a brand name. New York: The Free Press.

Barney, J. (1990). Firm Resources and Sustained Competitive Advantage. Journal of Management, 17(1), 99-120.

Choi, S., & Moon, J. M. (2023). Disruptive technologies and future societies: Perspectives and forecasts based on Q-methodology. Futures, 145, 1-14.

Chow, H. W., Ling, G. J., Yen, I. Y., & Hwang, K. P. (2017). Building brand equity through industrialtourism. Asia Pacific Management Review, 22(2), 70-79.

Grönroos, C. (1984). A Service Quality Model and Its Marketing Implications. European Journal of Marketing, 18(4), 36-44.

Oliver, R. L. (1994). Service quality: New directions in theory and practice. California: SAGE Publications.

Parasuraman, A., Zeithaml, A. V., & Berry, L. L. (1988). SERVQUAL A Multiple-item Scale for Measuring Consumer Perceptions of Service Quality. Journal of Retailing, 64(1), 12-40.

Porter, M. E. (1990). The competitive advantage of nations. New York: Free Press.

Porter, M. E. (2005). The competitive advantage creating and sustaining superior Performance. New York: The Free.

Zeithaml, V. A., Berry, L. L., & Parasuraman, A. (1996). The behavioral consequences of service quality. Journal of marketing, 60(2), 31-46.

กรุงเทพธุรกิจ. (2567). เปิดสถิติ นักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 เดือนแรกปี 67 ทะลักเข้าไทย 6.38 ล้านคน โต 50%. https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1116286.

พงศ์สฎา เฉลิมกลิ่น. (2567). ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของความพึงพอใจที่ส่งผลต่อความภักดีของผู้ใช้บริการร้านสปาและนวดแผนไทยในจังหวัดกาญจนบุรี. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 7(2), 1059-1080.

สุธาวัลย์ สัจจสมบูรณ์ และธีว์วรา ไหวดี. (2561). กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง เครื่องมือในการสร้าง ความได้เปรียบทางการแข่งขัน. วารสารการบริหารการปกครองและนวัตกรรมท้องถิ่น, 2(3), 83-92.

สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์. (2567). แนวโน้มธุรกิจบริการกับผู้บริโภคยุคใหม่.https://tpso.go.th/news/2402-0000000009.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-12-24

How to Cite

เฉลิมกลิ่น พ. (2024). ความภักดีในการรับบริการของผู้ประกอบการสปาและนวดแผนไทย เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขันทางธุรกิจ. วารสารบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม, 6(2), 181–195. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/iba/article/view/280139