ลักษณะการดำเนินงานของสำนักงานบัญชีที่ส่งผลต่อแนวทางการจัดการความรู้ และความสามารถด้านดิจิทัล

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาลักษณะการดำเนินงานของสำนักงานบัญชี 2) เพื่อศึกษาแนวทางการจัดการความรู้ของสำนักงานบัญชี 3) เพื่อศึกษาความสามารถด้านดิจิทัลของสำนักงานบัญชี 4) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของแนวทางการจัดการความรู้และความสามารถด้านดิจิทัลโดยรวมและรายด้าน จำแนกตามลักษณะการดำเนินงาน ได้แก่ ระยะเวลาในการดำเนินงาน ขนาดขององค์กร รูปแบบการดำเนินงาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มสำนักงานบัญชี 250 ราย ผู้ให้ข้อมูลคือ ผู้บริหารและผู้ทำบัญชี เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ การเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (ANOVA) การวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ (Scheffe)  ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุต่ำกว่า 40 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี ประสบการณ์ทำงาน 5 - 10 ปี รายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 และ30,000 - 50,000 บาท และตำแหน่งงานผู้ทำบัญชีและผู้บริหารขององค์กร ลักษณะการดำเนินงานขององค์กร พบว่า ส่วนใหญ่กิจการมีระยะเวลาในการดำเนินงาน 10 ปีขึ้นไป ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ขึ้นไป จำนวนพนักงานในองค์กร 20 คน ขึ้นไป สินทรัพย์รวม 5,000,000 บาท ขึ้นไป ประเภทสำนักงานบัญชี สำนักงานบัญชีทั่วไป โปรแกรมบัญชีที่ใช้งานหลักในการให้บริการลูกค้า โปรแกรมบัญชี Express 2) แนวทางการจัดการความรู้โดยรวม มีระดับความสำคัญอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการถ่ายโอนและการใช้ประโยชน์ความรู้มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3) ความสามารถด้านดิจิทัลโดยรวมมีระดับความสำคัญอยู่ในระดับมากและเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบัญชีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด 4) จากผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ลักษณะการดำเนินงานแตกต่างกันส่งผลต่อแนวทางการจัดการความรู้และความสามารถด้านดิจิทัลแตกต่างกัน จำแนกตามระยะเวลาในการดำเนินงาน จำนวนพนักงานในองค์กร และสินทรัพย์รวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มกิจการที่มีระยะเวลาดำเนินงาน 10 ปีขึ้นไป กลุ่มกิจการที่มีจำนวนพนักงาน 20 คน และสำนักงานบัญชีที่มีสินทรัพย์รวม 5,000,000 บาทขึ้นไป กลุ่มประเภทสำนักงานบัญชีคุณภาพ กลุ่มโปรแกรมบัญชี Express