“โลก-ธรรม” - “ทุกข์-สุข” และภูมิปัญญาด้านภาษาในกาพย์เซิ้งบั้งไฟผาแดงนางไอ่; “Loka-Dharma” - “Suffering-Happiness” and the Wisdom of Language in Phadaeng Nang Ai

ผู้แต่ง

  • อิศเรศ ดลเพ็ญ

คำสำคัญ:

โลก-ธรรม, กาพย์เซิ้งบั้งไฟ, ผาแดงนางไอ่, การอนุรักษ์และสืบสาน, ภูมิปัญญา, Loka-dharma, Seing Bung Fai, Phadaeng Nang Ai, Inheritance, Knowledge

บทคัดย่อ

           บทความนี้ต้องการวิเคราะห์ว่า เรื่องผาแดงนางไอ่ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเพณี วัฒนธรรม วรรณกรรม และวิถีชีวิตของคนอีสานมาช้านานนั้นมีสาระธรรมอะไรบ้างที่แสดงให้เห็น “โลก-ธรรม” “ทุกข์-สุข” อันจะสามารถนำไปเป็นปรัชญาเพื่อพิจารณาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต การศึกษาครั้งนี้เก็บข้อมูลจากวรรณกรรมกาพย์เซิ้งบั้งไฟผาแดงนางไอ่ แต่งโดย ทองพูล พรสวัสดิ์ และพงษ์ไทย เพชรดี (2555) และจากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลการเซิ้งบั้งไฟและประเพณีบุญบั้งไฟในจังหวัดขอนแก่น ผลการศึกษาพบว่า วรรณกรรมกาพย์เซิ้งบั้งไฟผาแดงนางไอ่แสดงให้เห็นสาระทั้งวิถีโลกและวิถีธรรม ด้านวิถีโลก ชีวิตคือ “ทุกข์” และ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ล้วนเป็นทุกข์ทั้งสิ้น โลกนี้เป็นอนิจจัง ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอน เรื่องผาแดงนางไอ่พบ “ความทุกข์” ทั้ง 8 จำพวกที่กล่าวไว้ในพุทธสูตร คือ ความเกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความเจ็บเป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์ อยากได้ไม่ได้เป็นทุกข์ จากสิ่งที่รักเป็นทุกข์ ความเจ็บแค้นเป็นทุกข์ และสังขารเป็นทุกข์ ด้านวิถีธรรม พบว่า ความดีสูงสุดของมนุษย์ที่พึงกระทำให้ถึงระดับสูงสุดมี ๔ ประการ คือ ความสุข ความสมบูรณ์ หน้าที่ และความปรารถนาดี ผู้วิจัยยังพบว่า “ความสุข” ซึ่งเป็นความดีสูงสุดของมนุษย์และเป็นจริยธรรมของโลกนั้น ส่วนใหญ่มิใช่ความสุขที่แท้จริง เป็นความสุขจอมปลอมในแบบยุคสมัยวัตถุนิยม

 

                                                                                         Abstract

            The aim of this paper is to analyze Phadaeng Nang Ai which has been associated with tradition, culture, and way of life of Isan people for a long time whether or not this literature illuminates “loka-dharma”, “suffering-happiness” dharmic principles that can be used as philosophy of life in livelihood. The data of this study were collected from Isan literature, Phadaeng Nang Ai composed by Thongphoon Pornsawat and Phongthai Petdee (2002), and from an observation on rocket festival as well as an in-depth interview done with Isan people in Khon Kaen Province. The results reveal that Phadang Nang Ai literature illuminates the important principles of both ‘loka and dharma’. For the loka principle, all life is suffering. The circle of life known as birth, old age, sickness, and death, is ‘dukkha’ or suffering.  This world is impermanent. Everything is subject to change and alteration. As mentioned in Buddhism, there are eight causes of suffering found in a story of Phadaeng Nang Ai. Those causes of suffering are as follows; birth is suffering, old age is suffering, sickness is suffering, death is suffering, unsuccessful desire is suffering, departing form beloved things is suffering, resentment is suffering, and body is suffering. As for the dharmic principle, it was found that the best goodnesses that can be performed to the highest level by human beings are as follows; happiness, perfection, duty, and good will. It was also found that “happiness” which is one of the best goodnesses of human beings and world ethics is not a real happiness. It is a fake happiness in the age of materialism.

 

 

เอกสารอ้างอิง

ฉัตรวัชระ เสนะบุตร์. (๒๕๔๕). การศึกษาวิถีชีวิตชาวอีสานจากวรรณกรรมพื้นบ้าน เรื่องผาแดงนางไอ่. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาไทยศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
เตชวโรภิกขุ (อินตา กวีวงศ์). (๒๕๔๔). รวมนิทานพื้นบ้านอีสาน ชุดที่ ๕. ขอนแก่น : หจก. โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
ทองพูล พรสวัสดิ์ และพงษ์ไทย เพชรดี. (๒๕๔๕). ชุมนุมกาพย์เซิ้งบั้งไฟ. ขอนแก่น: หจก. โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
บัญชา ศิริไกร, แปลเรียบเรียง. (๒๕๕๐). พุทธธรรมคือโลกธรรม. กรุงเทพมหานคร.
ปรีชา พิณทอง. (๒๕๒๔). ผาแดง-นางไอ่. อุบลราชธานี : โรงพิมพ์ศิริธรรมออฟเซ็ต.
ปรีชา พิณทอง. (๒๕๒๗). กาพ์ปู่สอนหลาน หลานสอนปู่. อุบลราชธานี : โรงพิมพ์ศิริธรรม.
ปรีชา อุยตระกูล. (๒๕๓๘). จริยธรรมในวรรณคดีอีสาน. วรรณคดีท้องถิ่นพินิจ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปิยะพร กัญชนะ. (๒๕๓๗). จากตำนานนาคถึงผาแดงนางไอ่. กรุงเทพมหานคร : ศรีบุญอุตสาหกรรมการพิมพ์.
พระครูวิจิตรนวสาร(บุญสวย สุจิตฺโต). (๒๕๕๖). การศึกษาหลักพุทธธรรมที่ปรากฏในพิธีกรรมการทำบุญบั้งไฟของชาวบ้านหนองเขื่อนช้าง ตำบลท่าสองคอน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระบุญยืน งามเปรี่ยม. (๒๕๕๓). การตีความพุทธจริยธรรมในวรรณกรรมเรื่องผาแดงนางไอ่. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาปรัชญา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทนาลัยขอนแก่น.
พิทูร มลิวัลย์. (๒๕๓๘). สรุปคำบรรยาย “อิทธิพลวรรณคดีพุทธศาสนาต่อวรรณคดีท้องถิ่นอีสาน”. วรรณคดีท้องถิ่นพินิจ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิพัฒน์ ประเสริฐสังข์. (๒๕๕๕). ผาแดงนางไอ่. มหาสารคาม : หจก. อภิชาติการพิมพ์.
พุทธทาสภิกขุ. (๒๕๓๔). คำบรรยายหลักพุทธธรรม. กรุงเทพมหานคร: รุ่งแสงการพิมพ์.
สุภณ สมจิตศรีปัญญา. (๒๕๒๒). ผาแดงนางไอ่. มหาสารคาม : ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิทยาลัยครูมหาสารคาม.
หลวงปู่พระครูวิเวกวัฒนาทร (หลวงปู่บุญเพ็ง กปฺปโก). (๒๕๔๙). ท่ามกลางโลกธรรม. ขอนแก่น: โรงพิมพ์แอนนา ออฟเซต.
อิศเรศ ดลเพ็ญ. (๒๕๖๐). กาพย์ผาแดงนางไอ่. ขอนแก่น : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-05-24

รูปแบบการอ้างอิง

ดลเพ็ญ อ. (2019). “โลก-ธรรม” - “ทุกข์-สุข” และภูมิปัญญาด้านภาษาในกาพย์เซิ้งบั้งไฟผาแดงนางไอ่; “Loka-Dharma” - “Suffering-Happiness” and the Wisdom of Language in Phadaeng Nang Ai. วารสารภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม, 8(1), 176–211. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/gshskku/article/view/143235

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย