การแปรสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในประเทศไทย สาเหตุ กระบวนการ ผลลัพธ์และปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จ
คำสำคัญ:
การแปรสภาพมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ, ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จ, มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การแปรสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในประเทศไทย: สาเหตุ กระบวนการ ผลลัพธ์ และปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1. สาเหตุของการแปรสภาพของมหาวิทยาลัยของรัฐไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ 2. กระบวนการและการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงในการแปรสภาพของมหาวิทยาของรัฐไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยกำกับของรัฐ 3. ความพึงพอใจของบุคลากรมหาวิทยาลัยต่อการบริหารงานมหาวิทยาลัยก่อนและหลังการแปรสภาพไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ และ 4. ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในการแปรสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ การศึกษาครั้งนี้ได้ทำการวิจัยเชิงคุณภาพร่วมกับการวิจัยเชิงปริมาณ โดยกลุ่มตัวอย่างในการวิเคราะห์เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐที่ได้แปรสภาพจากมหาวิทยาลัยของรัฐไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ทั้งนี้ผู้วิจัยได้เก็บข้อมูลจากมหาวิทยาลัย 5 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ซึ่งผลการวิจัยพบว่า 1) สาเหตุของการแปรสภาพของมหาวิทยาลัยของรัฐไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มี 2) สาเหตุ คือ 1) ปัจจัยภายในมาจากการขับเคลื่อนของผู้บริหารมหาวิทยาลัยและปัจจัยภายนอก ได้แก่นโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการลดรายจ่ายของภาครัฐลงและเพื่อให้มหาวิทยาลัยมีการบริหารงานได้อย่างอิสระมากขึ้น 2) กระบวนการและการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของทุก ๆ มหาวิทยาลัยมีลักษณะของการเปลี่ยนแปลงในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ใช้ระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนาน จึงจะแปรสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐได้สำเร็จ และในเรื่องของการการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงทุกมหาวิทยาลัยไม่พบปัญหาการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง อาจมีเพียงบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐอยู่บ้าง 3) ความพึงพอใจของบุคลากรมหาวิทยาลัยต่อการบริหารงานมหาวิทยาลัยก่อนและหลังการแปรสภาพไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ พบว่า การแปรสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐนั้นหลังแปรสภาพไม่มีความแตกต่างไปจากก่อนแปรสภาพ 4) ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จำแนกได้เป็น (1) ผู้บริหาร (2) ในแง่ของบุคลากรในองค์การ และ (3) นโยบายของภาครัฐ ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จในการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ประมวลได้เป็น ปัจจัยเกี่ยวกับบุคคล อันได้แก่ ผู้บริหาร และ บุคลากร
References
กัลยา วานิชย์บัญชา. (2552). สถิติสำหรับงานวิจัย. ภาควิชาสถิติ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทินพันธุ์ นาคะตะ. (2546). มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาล. กรุงเทพฯ: โครงการเอกสารและตำราสมาคมรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า.
ธีระพร วีระถาวร. (2546, เมษายน-มิถุนายน). ผู้มีความสามารถพิเศษ: ทรัพยากรอันล้ำค่าของแผ่นดิน. จุฬาลงกรณ์วารสาร, 15(59), 39-45.
ปฐม มณีโรจน์. (2545). วิวัฒนาการและความเป็นอิสระของการจัดการอุดมศึกษาของไทย. ใน อำนาจอิสระของการบริหารมหาวิทยาลัยไทย. (น. 1-72). กรุงเทพฯ: สำนักงานปลัดทบวงมหาวิทยาลัย.
ปิยะวรรณ ใจอักษร. (2551). แนวคิดและทิศทางของการเปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยของรัฐสู่มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่).
ปรัชญา เวสารัชช์. (2546, มกราคม-กุมภาพันธ์). อนาคตของงานและอาชีพข้าราชการ. วารสารข้าราชการ, 48(1), 23-31.
ผู้จัดการออนไลน์. (2558). นศ.ร่วมต้าน“ม. ออกนอกระบบ” ถ้าเราไม่ช่วยมหา'ลัย...ใครจะช่วยเรา?. สืบค้นจาก https://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041841
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2558, กรกฎาคม-กันยายน). ปฏิรูปครุศึกษาไทย : ลอง "พยายามใหม่" ดูอีกที. วารสารราชบัณฑิตยสภา, 40(3), 287-306.
รอนด้า ตันเถียร. (2546). การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 12(6).ราชกิจจานุเบกษา. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542. สืบค้นจาก https://www.moe.go.th/main2/plan/p-r-b42-01.htm
วรมน เนาวโรจน์. (2544). การเปลี่ยนแปลงของมหาวิทยาลัยของรัฐเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาล. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยยรามคำแหง).
วัฒนาวดี ศรีวัฒนพงศ์, สุรินทร์ ขนาบศักดิ์ และ ทิพวรรณ ตระการศิรินนท์. (2543). รายงานการวิจัยการสำรวจความคิดเห็นของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีต่อการเปรับเปลี่ยนมหาวิทยาลัยของรัฐให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาล. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2559). รายชื่อสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย. วันที่ค้นข้อมูล 5 กุมภาพันธ์ 2559, เข้าถึงได้จาก https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
ศรีไพร ศักดิ์รุ่งพงศากุล และเจษฏาพร ยุทธนวิบูลย์ชัย. (2549). ระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีการจัดการความรู้. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ซีเอ็ดยูเคชั่น
ศุจิกา ภูมิโคกรักษ์. (2543). ความวิตกกังวลต่อการเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยในกำกับ
ของข้าราชการ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการและสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ. (2547). การจัดการความรู้จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. คู่มือเทคนิคและวิธีการบริหารจัดการสมัยใหม่ตามแนวทางการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี. สืบค้นจาก https://www.opdc.go.th
สุจิตรา บุณยรัตพันธุ์. (2546). ระเบียบวิธีวิจัยสำหรับรัฐประศาสนศาสตร์. กรุงเทพฯ: คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
สุภางค์ จันทวานิช. (2550). วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เอกวิทย์ มณีธร. (2551). มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ : นอกระบบ เพื่อใคร? ทำไม? อย่างไร?. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ช่อระกา.
Yamane, T. (1973). Statistics: an introductory analysis (3rd ed.). New York: Harper and Row.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้นิพนธ์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว