สาราณียธรรม 6 พลังขับเคลื่อนการเมืองฐานราก

Main Article Content

พระปลัดมนู ฐานจาโร

บทคัดย่อ

บทความวิชาการนี้มุ่งศึกษาความสำคัญของการนำหลักธรรมสาราณียธรรม 6 มาเป็นพลังขับเคลื่อนการเมืองฐานราก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเมืองระดับท้องถิ่น เป็นกลไกสำคัญที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างใกล้ชิด ส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงสิทธิและหน้าที่ในสังคม พัฒนาความเป็นพลเมืองให้เข้มแข็ง มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการบริหารจัดการท้องถิ่น ทำให้ประชาชนสามารถเลือกตัวแทนที่เหมาะสม เข้าใจกระบวนการทางการเมืองอย่างชัดเจน สามารถติดตามตรวจสอบการทำงานของผู้แทนได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งแตกต่างจากการเมืองระดับชาติที่ประชาชนอาจรู้สึกห่างเหิน
จากการศึกษาพบว่า การมีส่วนร่วมในระดับท้องถิ่น เป็นรากฐานในการสร้างความเท่าเทียมทางการเมือง ส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงทางการเมืองในระดับชาติในระยะยาว อีกอย่างหนึ่ง ถ้านักเมืองท้องถิ่นและประชาชนในท้องถิ่น ขาดการนำหลักธรรมมาใช้บริหารการเมือง จะทำให้เกิดความขัดแย้งและตอบโต้กันอย่างรวดเร็ว ซึ่งรุ่นแรงกว่าการเมืองระดับชาติ  นักการเมืองท้องถิ่นและประชาชนในท้องถิ่นเป็นกลุ่มการเมืองฐานรากของประเทศ ที่ต้องวางรากฐานการพัฒนาประชาธิปไตยและจัดกิจกรรมทางการเมือง ตามหลักธรรมสาราณียธรรม 6 ประกอบด้วย เมตตากายกรรม (ทำดีต่อกัน) เมตตาวจีกรรม (พูดดีต่อกัน) เมตตามโนกรรม
(คิดดีต่อกัน) สาธารณโภคี (แบ่งปันกัน) ศีลสามัญญตา (มีศีลเสมอกัน) และ ทิฏฐิสามัญญตา (มีความเห็นเหมือนกัน) คุณธรรมเหล่านี้ จะสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในท้องถิ่น เป็นพลังขับเคลื่อนทางการเมืองฐานรากให้เข้มแข็งและสามารถพัฒนาการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยในระดับประเทศได้อย่างสมบูรณ์

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ฐานจาโร พ. (2025). สาราณียธรรม 6 พลังขับเคลื่อนการเมืองฐานราก. วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์, 2(2), 10–17. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/295698
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

(ม.มู. (ไทย) 12/492/531-532 หมายถึง พระไตรปิฎกเล่มที่ 12 สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์

(5. จูฬยมกวรรค) 8. โกสัมพิยสูตร ภาษาไทย เล่ม 12 ข้อ 492 หน้า 531-532 ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. 2539

กัลยาณมิตรเพื่อนแท้สำหรับคุณ. “สาราณียธรรม 6 (วิธีสร้างความสามัคคี 6 ประการ). [ออนไลน์].แหล่งที่มา: https://kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=15409 [22 ตุลาคม 2567].

เชษฐา ทองยิ่ง. “พระมหากษัตริย์ไทยกับการวางรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตย. [ออนไลน์], แหล่งที่มา: https://parliamentmuseum.go.th/2564/ar64-king-democracy.html [30 ตุลาคม 2567].

พระครูธรรมธรบุญเที่ยง พุทฺธสาวโก (ลักษณ์พลวงค์). (2564) “การบูรณาการหลักพุทธธรรมกับการสื่อสารทางการเมืองเพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์”. ตามหลักสูตรปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระมหาวิเศษ กนฺตธมฺโม. (2562). การจัดการความขัดแย้งตามหลักสาราณียธธรรม, วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์. 2(1) 32-37.

พระสมุห์สันติ สุจิณฺโณ (พรมสงฆ์) (2567). “วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของหลักสาราณียธรรมเพื่อสร้างความสามัคคี”. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา.บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ศราวุธ ขันธวิชัยและคณะ. (2564). การมีส่วนร่วมทางการเมืองของชุมชนในศตวรรษที่ 21, วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. 6(1) 704

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตโต). (2564). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้ง

ที่ 43. กรุงเทพฯ : นายสนิท ตันติวัฒน์พานิช พิมพ์เผยแพร่เป็นธรรมทาน.

สำนักงานคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น. “การกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นของประเทศไทยไทย. [ออนไลน์], แหล่งที่มา: http://www.local.moi.go.th/webst/decon.htm [22 ตุลาคม 2567].

เสกสรรค์ ไชยชาติและคณะ. (2565). การเคลื่อนไหวทางการเมืองของภาคประชาชน : ความหมาย ความสําคัญ บทบาทหน้าที่และรูปแบบยุทธวิธีที่มีผลต่อการเมืองไทย, วารสารรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. 6(1) 140-141.

อัศว์ศิริ ลาปีอ. (2566). ความหลากหลายของกระบวนทัศน์ใหม่ในการเมืองฐานราก : ภาพสะท้อนมุมมองผู้ปฏิบัติการทางการเมืองท้องถิ่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี, วารสารสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณ. 12 68.