วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK
<p> วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์เป็นวารสารวิชาการของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คณาจารย์ นักวิชาการ นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไปได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานทางวิชาการและผลงานวิจัยทางสังคมศาสตร์และแขนงวิชาที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ พระพุทธศาสนา รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ นิติศาสตร์ การจัดการ สังคมวิทยา เศรษฐศาสตร์ พัฒนาสังคมและการศึกษา ตลอดจนบทวิเคราะห์ที่เสนอองค์ความรู้นวัตกรรม แนวทางแก้ปัญหาแก่สังคม แนวทางเสริมสร้างความมั่นคงและการอยู่ร่วมกันตามวิถีพุทธ</p>
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา
th-TH
วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2351-0234
-
บทบรรณาธิการ
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/289914
<p>ด้วยวารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์ วิทยาเขตนครราชสีมาฉบับนี้เป็น <strong>ปีที่ 2 ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน 2568</strong> มีคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยจากสถาบันภายนอกได้นำเสนอผลงานทางวิชาการที่หลากหลายหัวข้อหลากหลายสาขาวิชา ทั้งนี้กองบรรณาธิการได้ส่งผลงานทางวิชาการเหล่านี้ไปให้กรรมการกลั่นกรองบทความทางวิชาการของแต่ละสาขาวิชาเป็นผู้อ่าน และมอบให้เจ้าของบทความนำไปปรับปรุงแก้ไขก่อนการตีพิมพ์แล้ว และด้วยความตั้งใจของกองบรรณาธิการที่มีความประสงค์จะทำวารสารเล่มนี้ให้สมบูรณ์ตามเกณฑ์ของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai Journal Citation Index Centre) ฉะนั้น ในวารสารฉบับนี้เน้นองค์ความรู้ พระพุทธบูรณาการการเมืองคุณธรรม นำเสนอบทความวิชาการด้านวิจัย 8 เรื่อง และบทความวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อการบริการวิชาการทางพระพุทธศาสนาบูรณาการศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม 2 เรื่อง รวมเป็น 10 บทความ</p>
พิชิต ปุริมาตร
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
-
ทานบารมีกับงานสาธารณสงเคราะห์
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/286522
<p>สังคมไทยเป็นสังคมชาวพุทธ ประชาชนชาวไทยมีนิสัยอ่อนโยนให้ความช่วยเหลือแบ่งปันให้ผู้อื่นได้รับความสุข ทั้งนี้เพราะสังคมไทยถูกหล่อหลอมด้วยพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายกัน คือ สนับสนุนให้เกิดการอยู่ร่วมกัน และพระพุทธศาสนายังเน้นการพัฒนาตนเอง พัฒนาสังคม เริ่มต้นจากการให้ทานเพื่อช่วยผู้อื่นที่ลำบากให้มีความสุข ลดการช่วงชิง ทำร้ายกันและกัน ลักษณะการให้ทานในพระพุทธศาสนาถือเป็นการสร้างบารมีเพื่อพัฒนาตนเองไปสู่จุดสูงสุด เข้าถึงพระนิพพานอันเป็นบรมสุขอย่างยิ่ง ส่วนการให้ทานความเข้าใจทั่วไป เป็นลักษณะการให้วัตถุสิ่งของ ในรายละเอียดพระพุทธศาสนาสอนเกี่ยวกับการให้ทาน สามารถกระทำได้หลายวิธีการ เริ่มต้นจากการให้แบบง่ายๆ ให้วัตถุทาน สูงขึ้นอีก <br>ให้อภัยทาน และการให้ที่ยิ่งกว่าการให้อื่นใด เป็นการให้ธรรมทาน เพราะช่วยทำให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ด้วยเหตุนี้<br>ผู้ต้องการสร้างสมทานบารมีจำเป็นต้องเรียนรู้การให้ทานในรูปแบบต่างๆ ปรับใช้ให้เหมาะสม นอกจากนี้ <br>การให้ทานตามหลักพระพุทธศาสนายังเป็นลักษณะของการสงเคราะห์ช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะพระสงฆ์เมื่อได้รับปัจจัยต่างๆมาแล้ว หลังจากยังอัตภาพให้อยู่ได้ แก้ทุกข์ประจำวัน ส่วนที่เหลือจำต้องสละออกเพื่อไม่ให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวของกิเลส พระสงฆ์หลายรูปเป็นทางผ่านให้ชนทั้งหลายได้สร้างทานบารมี นำปัจจัยที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายไปใช้สงเคราะห์ประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้รับความสุข และกลับมาสนับสนุนพระพุทธศาสนา การสร้างทานบารมีสัมพันธ์กับงานสาธารณะสงเคราะห์ พระสงฆ์จำเป็นต้องเป็นต้นแบบผู้ให้ปฏิบัติในฐานะผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา การเป็นที่พึ่งทางใจและการเป็นที่พึ่งเมื่อคนอื่นเดือดร้อนจากภัยอย่างใดอย่างหนึ่ง</p>
พระครูวิสุทธิสุตวัฒน์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
1
10
-
การสร้างศาสนทายาทในศตวรรษที่ ๒๑
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/285010
<p>พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองในประเทศไทย มีอิทธิพลต่อการขัดเกลาประชาชนในสังคมไทยโดยพระภิกษุ สามเณรเป็นกลไกสำคัญเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันแนวโน้มพระภิกษุ สามเณรในประเทศไทยปี พ.ศ. 2568 มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แม้ภาพรวมจำนวนพระภิกษุ สามเณรยังมีจำนวนมาก แต่ถ้าว่า พระภิกษุ สามเณร ส่วนมากอาศัยอยู่วัดใหญ่ในเมือง ส่วนวัดเล็กนอกเมืองมีพระภิกษุ สามเณรอาศัยอยู่น้อยมาก วัดนอกเขตอำเภอเมืองส่วนมากจำนวนพระภิกษุ สามเณรต่ำกว่า ๑๐ รูป และจังหวัดใหญ่ประเทศไทยมีพระภิกษุ สามเณรอาศัยอยู่มาก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร รองลงมาจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดบุรีรัมย์ สาเหตุผลพระภิกษุ สามเณร อาศัยอยู่วัดในเมืองใหญ่ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนการศึกษาเล่าเรียน สิ่งอำนวยประโยชน์ต่อการสืบต่อพระพุทธศาสนา ส่วนวัดในอำเภอเล็กๆ ชุมชนห่างไกล มีพระภิกษุ สามเณรอาศัยอยู่น้อยมาก เพราะขาดปัจจัยฯลฯ วัดหนึ่งๆ ต่ำกว่า 5 รูป นอกจากนี้ พระภิกษุจำนวนมากเป็นพระภิกษุผู้สูงอายุ พระภิกษุอายุน้อยกับเณรมีจำนวนน้อย เข้าขั้นวิกฤติ พระภิกษุอายุน้อยส่วนมากบวชระยะสั้น ภาระสืบต่อพระพุทธศาสนาตกอยู่กับพระภิกษุสูงอายุ สามเณรจำนวนหนึ่งบวชเรียน ปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดการสร้างศาสนทายาทสืบต่อพระพุทธศาสนาอย่างเป็นระบบ เริ่มต้นสนับสนุนเยาวชนบวชเรียน สนับสนุนให้สามเณรบวชเรียนต่อเป็นพระภิกษุ สร้างศาสนทายาททรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎก เผยแผ่พระพุทธศาสนาในสถานการณ์ศตวรรษที่ ๒๑ เกิดกระบวนการสืบต่อพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ขยายการศึกษาคณะสงฆ์ให้กระจายตัวครอบคลุมวัดทุกตำบล ปรับรูปแบบกิจกรรมการศึกษาคณะสงฆ์ เพิ่มจำนวนศาสนทายาท ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตช่วงครองสมณเพศหรือแม้ลาสิกขา สามารถใช้ความรู้พัฒนาคุณภาพชีวิตตนเองและสังคม ช่วยสืบทอดคำสอนพระพุทธศาสนา</p>
ณัฎฐกานต์ หงษ์กุลเศรษฐ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
11
20
-
การส่งเสริมการเมืองคุณธรรมประชาชนตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/286524
<p>การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาความคิดการส่งเสริมการเมืองคุณธรรมของประชาชนตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก 2. ศึกษาระดับการส่งเสริมการเมืองคุณธรรมของประชาชนตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก 3. การบูรณาส่งเสริมการเมืองคุณธรรมของประชาชนตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพ สัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 25 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา การวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 รูป/คน สถิติวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า</p> <ol> <li class="show">ความคิดการส่งเสริมการเมืองคุณธรรมของประชาชนตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ดังนี้ ประชาชนตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ตระหนักถึงปัญหาการเมืองไทยหาเหตุเกิดจากขาดคุณธรรม เน้นกิจกรรมการเมืองแบบต่างตอบแทน แก้ปัญหาด้วยการส่งเสริมคุณธรรมประชาชนผู้มีอำนาจเลือกนักการเมือง เลือกนักการเมืองผู้มีคุณธรรม</li> <li class="show">ระดับการส่งเสริมการเมืองคุณธรรมของประชาชนตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านความคิดการส่งเสริมการเมืองคุณธรรม รองลงมา ด้านร่วมกิจกรรมส่งเสริมการเมืองคุณธรรม ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการบูรณาส่งเสริมการเมืองคุณธรรม</li> <li class="show">การบูรณาส่งเสริมการเมืองคุณธรรมของประชาชนตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ประชาชนตำบลสาริกา ร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมประชาชนแบบบูรณาการ เน้นส่งเสริมคุณธรรมประชาชนเพื่อใช้เป็นฐานทำกิจกรรมการเมืองคุณธรรม เมื่อเลือกนักการเมืองจะคำนึงถึงผลงานและคุณธรรมท่งการเมือง</li> </ol>
ประเทืองจิต บุญมาก
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
21
31
-
การสร้างเครือข่ายชุมชนพัฒนาคุณธรรมนักเรียนโรงเรียนเคหะประชาสามัคคี ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/288371
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. การสร้างเครือข่ายชุมชนพัฒนาคุณธรรมนักเรียนโรงเรียนเคหะประชาสามัคคี ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 2. ศึกษาระดับการร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายชุมชนพัฒนาคุณธรรมนักเรียนโรงเรียนเคหะประชาสามัคคี ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 3. วิเคราะห์ผลดำเนินการสร้างเครือข่ายชุมชนพัฒนาคุณธรรมนักเรียนโรงเรียนเคหะประชาสามัคคี ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพ การสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 25 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 400 คน สถิติวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน <br>ผลการวิจัยพบว่า<br>1. การสร้างเครือข่ายชุมชนพัฒนาคุณธรรมนักเรียนโรงเรียนเคหะประชาสามัคคี ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา วัดเป็นศูนย์เครือข่ายชุมชนจัดกิจกรรมพัฒนาคุณธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา แกนนำชุมชนจิตอาสาร่วมพัฒนาโรงเรียน บูรณาการหน่วยงานรัฐส่งเสริมคุณธรรม ผู้ปกครองร่วมอบรมคุณธรรมเรียนรู้ต่อเนื่อง ครูบูรณาการรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมคุณธรรมนักเรียนสู่ชุมชน <br>2. ระดับการร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายชุมชนพัฒนาคุณธรรมนักเรียนโรงเรียนเคหะประชาสามัคคี ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านร่วมสร้างเครือข่ายชุมชนพัฒนาคุณธรรม รองลงมา ด้านร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านร่วมตัดสินใจเชิงนโยบาย<br>3. ผลดำเนินการสร้างเครือข่ายชุมชนพัฒนาคุณธรรมนักเรียนโรงเรียนเคหะประชาสามัคคี ตำบล<br>สุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โรงเรียนเคหะประชาสามัคคีนำเสนอนโยบายต่อองค์กรเครือข่ายชุมชน ร่วมกับคณะสงฆ์ ครู แกนนำจิตอาสาชุมชน ผู้ปกครองพัฒนาคุณธรรมนักเรียน</p>
อดิศร สนิทชอบ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
32
41
-
การพัฒนาวัดส่งเสริมจาริกบุญจาริกธรรมตามอัตลักษณ์ชุมชน อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/286656
<p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษารูปแบบพัฒนาวัดส่งเสริมจาริกบุญจาริกธรรมตามอัตลักษณ์ชุมชน อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก 2. ศึกษาระดับการร่วมพัฒนาวัดส่งเสริมจาริกบุญจาริกธรรมตามอัตลักษณ์ชุมชนอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก 3. ผลการการพัฒนาวัดส่งเสริมจาริกบุญจาริกธรรมตามอัตลักษณ์ชุมชนอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพ การสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 25 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 386 คน สถิติวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า</p> <ol> <li class="show">การพัฒนาวัดส่งเสริมจาริกบุญจาริกธรรมตามอัตลักษณ์ชุมชนอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก คณะสงฆ์จังหวัดนครนายกมีบทบาทต่อการส่งเสริมพัฒนาวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน รูปแบบพัฒนาวัดเหมือนกันและต่างกันสอดคล้องกับอัตลักษณ์ชุมชน สร้างความเลื่อมใสศรัทธา ส่งเสริมกิจกรรมบำเพ็ญบุญ สนับสนุนวัดต่างๆ นำพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมกิจกรรมบุญ</li> <li class="show">ระดับการร่วมการพัฒนาวัดส่งเสริมจาริกบุญจาริกธรรมตามอัตลักษณ์ชุมชนอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการร่วมกิจกรรมจาริกบุญจาริกธรรม รองลงมา ด้านกำหนดรูปแบบพัฒนาวัด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านสร้างเส้นทางจาริกบุญจาริกธรรม</li> <li class="show">ผลการพัฒนาวัดส่งเสริมจาริกบุญจาริกธรรมตามอัตลักษณ์ชุมชนอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ชุมชนร่วมพัฒนาวัด จัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมวิถีพุทธผสมผสานกับกิจกรรมชุมชน เชิญชวนเพื่อนสนิทญาติพี่น้องมาร่วมทำบุญในวัดท้องถิ่นตนเอง ผ่านสื่อออนไลน์ เกิดการท่องเที่ยวชุมชนผสมผสานกับการทำบุญตามวัดต่างๆในอำเภอเมืองนครนายก</li> </ol> <p> </p> <p> </p> <p> </p>
พระครูศรีสิทธินายก
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
42
53
-
การบูรณาการหลักสังคหวัตถุธรรมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมทางการเมืองของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี THE
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/289080
<p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับพฤติกรรมทางการเมืองของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักสังคหวัตถุธรรมกับพฤติกรรมทางการเมืองของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี 3) นำเสนอการบูรณาการหลักสังคหวัตถุธรรมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมทางการเมืองของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี วิจัยเชิงปริมาณ <br>ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี จำนวน 397 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน การวิจัยเชิงคุณภาพ <br>ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับพฤติกรรมทางการเมืองของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านการสร้างความเจริญให้ชุมชนท้องถิ่น รองลงมาคือ ด้านความมุ่งมั่นและความตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านนโยบายการบริหารงานที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน 2) ความสัมพันธ์ระหว่างหลัก<br>สังคหวัตถุธรรมกับพฤติกรรมทางการเมืองของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี โดยภาพรวม มีความสัมพันธ์กันอยู่ในระดับปานกลาง (R=.0.528) จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย 3) การบูรณาการหลักสังคหวัตถุธรรมเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมทางการเมืองของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ได้แก่ 1) ด้านทาน การสงเคราะห์ ช่วยเหลือประชาชนผู้ขาดแคลนหรือผู้เดือดร้อน 2) ด้านปิยวาจา การรับฟังคำวิพากษ์ วิจารณ์ 3) ด้านอัตถจริยา ประพฤติตนให้เป็นประโยชน์แก่ทั้งตนเอง และผู้อื่น 4) ด้านสมานัตตตา รู้จักวางตนให้เหมาะสมกับฐานะเสมอต้นเสมอปลาย</p>
พระครูปลัดกฤชษภณ ขนฺติพโล (ถนอมทรัพย์)
ไพวรรณ ปุริมาตร
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
54
67
-
พุทธวิธีเพื่อส่งเสริมการสื่อสารทางการเมืองในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/289088
<p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาระดับการสื่อสารทางการเมืองในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี 2. เปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนต่อการสื่อสารทางการเมืองในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 3. นำเสนอพุทธวิธีเพื่อส่งเสริมการสื่อสารทางการเมืองในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี วิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี จำนวน 397 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที ค่าเอฟ วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการสื่อสารทางการเมืองในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านผู้ส่งสาร รองลงมา คือ ด้านข้อมูลข่าวสาร และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ด้านช่องทางในการส่งสาร 2) การเปรียบเทียบการสื่อสารทางการเมืองในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ประชาชนที่มีเพศต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการสื่อสารทางการเมืองในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี โดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกันทุกด้าน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย 3) พุทธวิธีเพื่อส่งเสริมการสื่อสารทางการเมืองในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ของอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี โดยใช้หลักอิทธิบาท 4 (1) ฉันทะ ความพอใจในงานเพื่อส่วนรวมอย่างสุจริต (2) วิริยะ ความเพียรในการพัฒนาท้องถิ่นตามนโยบายที่หาเสียงไว้ (3) จิตตะ การเอาใจใส่ มีคุณธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน (4) วิมังสา การใช้เหตุผล วิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นธรรม โปร่งใส หลักเหล่านี้ช่วยสร้างการเมืองที่ดีในชุมชน</p>
พระครูใบฎีกาพิพัฒน์ เขมจาโร (บูระมิ)
พรเศรษฐี วุฒิปัญญาอิสกุล
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
68
80
-
พุทธวิธีเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข ของเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/289089
<p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักสัปปายะ 4 กับความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข 3) นำเสนอพุทธวิธีเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี วิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 321 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน การวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข ของเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด โดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ ด้านสะอาด รองลงมาได้แก่ ด้านสะดวก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ได้แก่ ด้านสะสาง 2) ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสัปปายะ 4 กับความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ของเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด มีความสัมพันธ์กันเชิงบวกอยู่ในระดับปานกลาง (R=0.761**) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย 3) พุทธวิธีเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนด้วยโครงการวัด ประชารัฐ สร้างสุข ของเทศบาลตำบลหนองบัวตะเกียด ตามหลักสัปปายะ 4 ได้แก่ (1) อาวาสสัปปายะ มีการแบ่งเขตพื้นที่อย่างชัดเจน ให้ความสำคัญกับความสะอาด (2) อาหารสัปปายะ มีการดูแลแหล่งอาหารให้มีความเพียงพอ เหมาะสมแก่พระสงฆ์และประชาชน (3) ธรรมสัปปายะ จัดให้มีสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เหมาะสม เงียบสงบ (4) ปุคคลสัปปายะ ส่งเสริมให้บุคคลในชุมชนมีจิตอาสา มีเมตตา และมีจิตสาธารณะ</p>
พระอธิการมนตรี มหามงฺคโล (ไขขุนทด)
เบญญาภา อัจฉฤกษ์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
81
93
-
พุทธทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการเลือกตั้งสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาลนครนครราชสีมา
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/289090
<p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการเลือกตั้งสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาลนครนครราชสีมา 2) เปรียบเทียบทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการเลือกตั้งสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาลนครนครราชสีมา <br>3) นำเสนอพุทธทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการเลือกตั้งสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาลนครนครราชสีมา การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี วิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในเทศบาลนครนครราชสีมา จำนวน 379 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน การวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า 1) ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการเลือกตั้งสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาลนครนครราชสีมา โดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านการตัดสินใจในทางการเมือง รองลงมาได้แก่ ด้านการร่วมรณรงค์เลือกตั้ง ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านการดำเนินการเลือกตั้ง 2) ทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการเลือกตั้งสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาลนครนครราชสีมา โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือน และอาชีพต่างกัน ทัศนคติต่อการเลือกตั้งสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาลนครนครราชสีมา <br>ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย 3) นำเสนอพุทธทัศนคติของประชาชนที่มีต่อการเลือกตั้งสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นเทศบาลนครนครราชสีมาตามหลักสัปปุริสธรรม 7 ได้แก่ 1) ธัมมัญญุตา รู้หลักเกณฑ์การเลือกตั้ง 2) อัตถัญญุตา รู้จักเป้าหมายในการบริหารงาน 3) อัตตัญญุตา เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเอง 4) มัตตัญญุตา รู้จักการใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม 5) กาลัญญุตา รู้จักกรอบระยะเวลาในการบริหารงานท้องถิ่น 6) ปริสัญญุตา รู้จักพฤติกรรมของคนในท้องถิ่น และ 7) ปุคคลัญญุตา เลือกใช้คนให้เหมาะสมกับงาน</p>
พระครูวินัยธรศุฆวัจน์ ทีปธมฺโม (ศรีสระน้อย)
ชุติพนธ์ วงษ์อมรวิทย์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
94
105
-
พุทธบูรณาการเพื่อส่งเสริมหน้าที่พลเมืองของเทศบาลตำบลบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/MCUNK/article/view/289091
<p>บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาระดับหน้าที่พลเมืองของประชาชนในเทศบาลตำบลบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี 2. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักสังคหวัตถุ 4 กับหน้าที่พลเมืองของเทศบาลตำบลบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี 3. นำเสนอพุทธบูรณาการเพื่อส่งเสริมหน้าที่พลเมืองของเทศบาลตำบลบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี วิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในเทศบาลตำบลบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี จำนวน 371 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที ค่าเอฟ วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการส่งเสริมหน้าที่พลเมืองของเทศบาลตำบลบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี โดยรวมอยู่ในระดับมาก ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านเคารพความแตกต่าง รองลงมา คือ ด้านรับผิดชอบตนเองและพึ่งตนเองได้ และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ด้านเคารพกติกาประชาธิปไตย 2) ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสังคหวัตถุ 4 กับการส่งเสริมหน้าที่พลเมืองของเทศบาลตำบลบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี พบว่า หลักสังคหวัตถุ 4 กับการส่งเสริมหน้าที่พลเมืองของเทศบาลตำบลบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี มีความสัมพันธ์เชิงบวกอยู่ในระดับน้อย (R=.453**) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย 3) นำเสนอพุทธบูรณาการเพื่อส่งเสริมหน้าที่พลเมืองของเทศบาลตำบลบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ตามหลักสังคหวัตถุ 4 ได้แก่ 1) ด้านทาน การให้ การเสียสละ การแบ่งปัน การสงเคราะห์หรือช่วยเหลือประชาชนผู้ขาดแคลนหรือผู้เดือดร้อน 2) ด้านปิยวาจา การพูดดีต่อกันให้เกิดความสามัคคี การใช้วาจาด้วยถ้อยคำที่สุภาพ 3) ด้านอัตถจริยา การช่วยเหลือกัน รู้จักการเสียสละไม่เห็นแก่ตัว 4) ด้านสมานัตตตา การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ การวางตัวให้เหมาะสมเสมอต้นเสมอปลาย</p>
กิตติพร วงษ์แก้ว
พิชิต ปุริมาตร
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร. นม. สังคมศาสตร์ ปริทรรศน์
2025-05-28
2025-05-28
2 1
106
118