ผลของการฝึกสมาธิแบบเคลื่อนที่ที่ส่งผลต่อความฉลาดทางอารมณ์และการวาดรูปลายกระหนกในนักศึกษาวิทยาลัยช่างศิลปสุพรรณบุรี

Main Article Content

Kittisak Makpan

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาเครื่องมือและโปรแกรมการฝึกสมาธิแบบเคลื่อนที่2) เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบของการฝึกสมาธิแบบเคลื่อนที่ที่ส่งผลต่อความฉลาดทางอารมณ์และการวาดรูปลายกระหนกในนักศึกษาวิทยาลัยช่างศิลปสุพรรณบุรี โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นอาสาสมัครนักศึกษาของวิทยาลัยช่างศิลปสุพรรณบุรี ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 40 คน โดยทำการแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มควบคุม จำนวน 20 คน ฝึกการวาดภาพลายกระหนกเพียงอย่างเดียว 30 นาที กลุ่มทดลอง จำนวน 20 คน ฝึกการวาดภาพลายกระหนกควบคู่กับโปรแกรมการสมาธิแบบเคลื่อนที่ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ การวิเคราะห์ข้อมูลแสดงผลด้วยค่าค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ความแปรปรวนทางเดียว (One Way Analysis of Variance) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวแบบวัดซ้ำ (One Way Analysis of Variance) โดยกำหนดระดับความมีนัยสำคัญที่ระดับ .05


              ผลการศึกษาพบว่า  


  1. เครื่องมือและโปรแกรมการฝึกสมาธิแบบเคลื่อนที่ มีค่าดัชนีความเที่ยงตรงเชิงประจักษ์ (Face Validity) 1.00 และเมื่อนำไปทดลองใช้ (try out) พบว่า นักศึกษาวิทยาลัยช่างศิลปสุพรรณบุรี ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างจริงในการทดลองในระยะที่ 2 สามารถฝึกตามโปรแกรมได้

  2. ผลของความฉลาดทางอารมณ์และคะแนนความสามารถในการวาดภาพลายกระหนก ของกลุ่มตัวอย่างมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนภายหลังการฝึกตามโปรแกรม 8 สัปดาห์

  3. ผลการเปรียบเทียบ พบว่า ค่าเฉลี่ยความฉลาดทางอารมณ์และความสามารถในการวาดภาพลายกระหนก มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยสังเกตได้จากคะแนนที่ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจสอบและให้คะแนน อีกทั้งผลการทดสอบความแตกต่างก่อนการฝึก ภายหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 4 และภายหลังการฝึกสัปดาห์ที่ 8 นั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ซึ่งผลการวิจัยสามารถบ่งบอกได้ชัดเจนว่าการฝึกกับเครื่องมือและโปรแกรมการฝึกสมาธิแบบเคลื่อนที่ นั้นสามารถพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ และความสามารถในการวาดภาพลายกระหนกได้เป็นอย่างดี

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ฉัตรตระกูล ปานอุทัย. (2563). ตำราจิตวิทยาการกีฬา. สุพรรณบุรี: มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุพรรณบุรี.

____________________. (2566). กิจกรรมทางกายแบบออนไลน์ที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางกาย ความฉลาดทางอารมณ์ และคุณภาพชีวิตของเยาวชน. รายงานการ

วิจัย มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุพรรณบุรี.

ถนอมศักดิ์ จิรายุสวัสดิ์. (2556). EQ ดี ทำอะไรก็สำเร็จ. กรุงเทพฯ: ปราชญ์.

ธัฐบดินทร์ บุญเนื่อง และ อภิชาติ พลประเสริฐ. (2017). การพัฒนาแบบฝึกการวาดลวดลายกระหนกสำหรับนักศึกษาศิลปะระดับปริญญาตรี. วารสารอิเล็กทรอนิกส์

ทางการศึกษา, 12 (2), 108-122.

ประภัสสร แย้มอรุณ. (2555). การร่างภาพศิลปะไทย ชุด พระ นาง ยักษ์ ลิง และสัตว์หิมพานต์. กรุงเทพฯ: แปลน พริ้นติ้ง .

ประยูร อุลุชาฎะ. (2541). วิวัฒนาการของศิลปะ น. ณ ปากน้ำ. กรุงเทพฯ: เลิฟแอนด์ลิพเพรส.

โพธิ์ ใจอ่อนน้อม. (2549). คู่มือลายไทย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พัชรี ทองคำพานิช และ กาญจนา กาญจนประดิษฐ์. (2564). การสร้างชุดอุปกรณ์และโปรแกรมการฝึกที่พัฒนาความคล่องแคล่วว่องไว สำหรับนักกีฬาเซปัก

ตะกร้อ. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ, 22 (3), 303-319.

พัชรี ทองคำพานิช และฉัตรตระกูล ปานอุทัย. (2565). การสร้างอุปกรณ์และโปรแกรมการฝึกสมาธิแบบเคลื่อนที่ที่ส่งผลต่อความสามารถในการยิงปืน. วารสาร

มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, 14 (3), 39-56.

ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์สันต์. (2545). การพัฒนาแบบประเมินความฉลาดทางอารมณ์สำหรับคนไทยอายุ 12-60 ปี. วารสารสมาคมจิตเวชแห่งประเทศไทย, 47 (4),

-279.

สมบัติ กาญจนกิจ และสมหญิง จันทรุไทย. (2542). จิตวิทยาการกีฬา แนวคิด ทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สมปอง อัครวงษ์. (2550). จิตรกรรมไทย. กรุงเทพฯ: อัมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์พับลิซซิ่ง.

Mayer J. D. and Salovey D. J. (1997). What Is Emotional Intelligence?” in Emotional Development and Emotional Intelligence: Educational

Implications. New York: Basic Book.

Polit, D.F., Beck, C.T. and Owen, S.V. (2007). Is the CVI an Acceptable Indicator of Content Validity? Appraisal and Recommendations.

Research in Nursing & Health, 30, 459-467.