ทัศนคติ ความเป็นมิตรของเจ้าบ้าน และการรับรู้ต่อพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว ที่ส่งผลต่อความเต็มใจที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาทัศนคติของเจ้าบ้านที่มีต่อนักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือก (2) ศึกษาความเป็นมิตรของเจ้าบ้านที่มีต่อนักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือก (3) ศึกษาการรับรู้ของเจ้าบ้านต่อพฤติกรรมของกลุ่ม เพศทางเลือก และ (4) ศึกษาความเต็มใจของเจ้าบ้านที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือก กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ให้บริการที่พัก/โรงแรม และมัคคุเทศก์ ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 คน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Multiple Regression Analysis
ผลการวิจัยพบว่า 1) เจ้าบ้านมีทัศนคติต่อผู้ที่จัดอยู่ในกลุ่มเพศทางเลือก ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีทัศนคติเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของกลุ่มเพศทางเลือกเป็นเรื่องของการเลือกส่วนบุคคล มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด 2) เจ้าบ้านมีความเป็นมิตรต่อเพศทางเลือก ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยเห็นว่าเพื่อนที่เป็นเพศทางเลือกเป็นคนปกติเหมือนทั่วไป มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด 3) เจ้าบ้านมีการรับรู้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกลุ่มเพศทางเลือก ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีการรับรู้พฤติกรรมการแสดงความสนิทสนมระหว่างกัน เช่น จับมือถือแขน โอบกอด มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด และ 4) เจ้าบ้านมีความเต็มใจที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือก ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยเจ้าบ้านยินดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือกในสถานประกอบการที่ทำงานอยู่ มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด
ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ทัศนคติของเจ้าบ้าน และความเป็นมิตรของเจ้าบ้าน ส่งผลต่อความเต็มใจที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือก ในขณะที่การรับรู้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกลุ่มเพศทางเลือก ไม่ส่งผลต่อความเต็มใจที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเพศทางเลือก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2562). รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว. ค้นเมื่อ สิงหาคม 15, 2563,
จาก https://www.mots.go.th/more_news_new.php?cid=590
ปารณีย์ จงรักษ์ และอนุชา ทีรคานนท์. (2557). การเปิดรับสื่อ ทัศนคติ การแสดงออกทางสังคมของกลุ่มหญิง
รักหญิง. วารสารบรรณศาสตร์ มศว., 7(1), 53-64.
ปิยะฉัตร ปวงนิยม, จิราทัศน์ รัตนมณีฉัตร และนิติบดี ศุขเจริญ. (2560). แนวทางในการสร้างโอกาสทางการตลาดจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย
ทางเพศสำหรับธุรกิจโรงแรม. Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ. 10(3),
-2471.
นลพรรณ เลาหลินณรงค์. (2557). การศึกษาทัศนคติของวัยรุ่นที่มีความสนใจใช้บริการศัลยกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร
มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
วรัสสิญา ศุภธนโชติพงศ์. (2562). คุณภาพการบริการที่ส่งผลต่อความตั้งใจที่จะใช้บริการซ้ำของลูกค้าธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด(มหาชน) กรณีศึกษา
พื้นที่ส่วนกลางกรุงเทพมหานครภาค 203. สารนิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เอวินันท์ สะอาดดี. (2559). ทัศนคติและความสนใจที่มีต่อการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมของผู้สูงวัยผ่าน Mobile Application. การค้นคว้าอิสระปริญญา
บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Ajzen, I. (1991). The theory of planned behaviors. Organizational Behavior and Human Decision Process. 50(1), 179-211.
Cochran, W. G. (1977). Sampling techniques (3rd ed.). New York: John Wilay & Sons.
Hughes, H., and Richard, D. (2010). Holidays of Older Gay Men: Age or Sexual Orientation as Decisive Factor. Tourism Management.
(1), 454-463
Munn. (1971). Norman, introduction to psychology. Boston: Houghton Muffin
Terrabkk. (2562). LGBT ความหลากหลายที่ทรงพลัง ตอนที่ 1: เมื่อ LGBT คือเสียงใหม่ของธุรกิจคุณ. ค้นเมื่อ สิงหาคม 15, 2563,
จาก https://www.terrabkk.com/news.
Waitt, G. (2006). Gay Tourism: Culture and Context. The Haworth press inc.10 Binghamton NY. 1390-1580, 182-183.
Zeithaml, V. A., Berry, L.L. and Parasuraman, A. (1996). The behavioural consequences of service quality.
Journal of Marketing Management. 60(4), 31-46.