รูปแบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัดจันทบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการจำแนกตามรูปแบบการจัดการของการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในจังหวัดจันทบุรี และ(2) เพื่อนำเสนอรูปแบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัดจันทบุรี
การศึกษาครั้งนี้ การสำรวจโดยใช้แบบประเมินสภาวะอย่างเร่งด่วน (Rural Rapid Appraisal : RRA) ในพื้นที่ การสัมภาษณ์แบบกึ่งมีโครงสร้าง (Semi-Structured Interview) ในรูปแบบการเจาะลึก และการจัดเวทีระดมสมอง/ประชุมกลุ่มย่อยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร แล้วทำการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค (SWOT Analysis) การวิเคราะห์โดยจำแนกเป็นกลุ่ม (Typological Analysis) และวิธีการคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ (Systematic Inventive Thinking) เพื่อสังเคราะห์ให้ได้รูปแบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดจันทบุรี โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จากกลุ่มชาวสวนที่เข้าร่วมโครงการ “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” ปี 2559 และต้องมีบทบาทเกี่ยวกับการจัดการ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดจันทบุรี จึงมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 14 สวน และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง จำนวน 8 หน่วยงาน
ผลการวิจัยในสภาวการณ์ปัจจุบันพบว่า 1. การบริหารจัดการจำแนกตามรูปแบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดจันทบุรี มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจ 2 รูปแบบ 1) ธุรกิจเจ้าของคนเดียว ซึ่งการเปิดให้บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในลักษณะมีกิจกรรมเฉพาะ และ 2) กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมีรูปแบบวิสาหกิจชุมชนประเภทคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล มีการจัดการท่องเที่ยวสมาชิกกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในชุมชนสังคมเดียวกัน จากการวิเคราะห์การบริหารจัดการ 4 มิติ พบว่า มิติด้านบุคลากร : ยังขาดแคลนบุคลากรทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ มิติด้านผลผลิต : ในช่วงผลไม้ไม่เพียงพอ ต้องซื้อผลไม้จากแหล่งอื่นที่ไม่สามารถรับรองคุณภาพได้ มิติด้านการตลาด : กิจกรรมมีรูปแบบใกล้เคียงกันทุกสวน ขาดความรู้ด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ มิติด้านการเงิน : การจัดเก็บเอกสารไม่เป็นระบบ จึงไม่สามารถใช้ข้อมูลทางการเงินมาวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจของธุรกิจได้
2. การเสนอรูปแบบการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัดจันทบุรี โดยการนำข้อมูลการจัดการทั้ง 4 มิติมาแยกออกเป็นส่วน ๆ แล้วนำมาประกอบใหม่ให้กลายเป็นวิธีการใหม่ ซึ่งสามารถแบ่งรูปแบบการบริหารจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จังหวัดจันทบุรี ได้ 3 รูปแบบนั่นคือ 1) รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เน้นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market Style) 2) รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบการจัดการพื้นที่ (Zoning Style) 3) รูปแบบการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เรียนรู้วิถีเกษตร (Learning Style)
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการเกษตร. (2541). โครงการท่องเที่ยวเกษตร ปีท่องเที่ยวไทย 2541-2542. กรุงเทพฯ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
เดชา โต้งสูงเนิน. (2543). การบริหารจัดการท่องเที่ยวเกษตร กรณีศึกษา บ้านม่วงคำ ตำบลโป่งแยงอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่. การค้นคว้าแบบอิสระ ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการวิชาจัดการมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
นริศรา สุธนเสาวภาคย์. (2545). การวิเคราะห์ศักยภาพของการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เป็นที่มาของรายได้นอกภาคเกษตรกรรม. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐกิจธุรกิจ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
พิมพา หิรัญกตติ, อุดม สายะพันธุ์, เกยูร ใยบัวกลิ่น, สุพรรณี อินทร์แก้ว, สมชาย หิรัญกิตติ. (2557). พฤติกรรม การท่องเที่ยวเชิงเกษตรของนักท่องเที่ยวชาวไทย. วารสารสุทธิปริทัศน์, 28 (88), 362-384.
รัฐนันท์ พงศ์วิริทธิ์ธร. (2558). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อความยั่งยืน : โครงการหลวงปางดะ. วารสารเทคโนโลยีสุรนารี, 9(1), 19-35.
Boyd, D. and Goldenberg, J. (2013). Inside the Box Creativity: A systematic method for yielding extraordinary innovation. New York: Simon & Schuster.